โบรกแนะ “ซื้อ” ESSO เป้า 11.70 บาท มอง BCP ช่วยปลดล็อกมูลค่าหุ้น
“เกียรตินาคินภัทร” มอง BCP ซื้อ ESSO ช่วยปลดล็อกมูลค่าหุ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/67 และยังช่วยลดต้นทุน-ค่าใช้จ่ายพร้อมแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 11.70 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ระบุในบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับหุ้นบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO หลังรายงานงบไตรมาส 2/66 ขาดทุนสุทธิ 1.3 พันล้านบาท แต่หากหักขาดทุนสต๊อกน้ำมัน (Stock Loss) มูลค่าเกือบ 660 ล้านบาท (1.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล) จะทำให้เหลือขาดทุนอยู่ที่ที่ 821 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 อัตราการกลั่นลดลงเหลือร้อยละ 63 ที่ 110,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว 138,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ค่าการกลั่น (GRM: Gross Refinery Margin) ในไตรมาส 2 อยู่ที่ -0.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมที่ 5.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 1
พร้อมกันนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อผลประกอบการของ ESSO คือต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 2.5 ถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมอยู่ที่ 1.7-2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ยอดขายน้ำมันแบบปลีกของ ESSO ถือว่าทำได้ดีกว่าคาดในไตรมาส 2 ด้วยปริมาณการขาย 61,900 บาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไร (ก่อนแบ่งกับ dealer) คงตัวอยู่ที่ 1.8 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัย ยังมองต่ออีกว่าการที่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เข้าซื้อ เอสโซ่ จะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้น ESSO นับตั้งแต่ไตรมาส 1/67 เป็นต้นไป BCP จะช่วยลดต้นทุนการผลิตของ ESSO และยังช่วยให้ ESSO ดำเนินกิจการดีขึ้น เช่น การลดค่าใช้จ่ายในการผลิต (Overhead cost) ของเอ็กซ่อนโมบิล เป็นต้น
โดยฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ESSO ให้ราคาเป้าหมายที่ 11.70 บาท