I2 บวก 3% มั่นใจรายได้ปี 66 โต ทยอยรับรู้แบ็กล็อก 2.5 พันล้าน

I2 วิ่งแรง 3% ลุ้นรายได้ปีนี้โตตามเป้า หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 2.5 พันล้านบาท ครึ่งปีหลังเดินหน้าประมูลงานใหม่เต็มสูบ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ส.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ I2 ณ เวลา 11:40 น. อยู่ที่ระดับ 2.54 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.25% สูงสุดที่ระดับ 2.56 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.44 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26.68 ล้านบาท

นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร I2 เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิ 7.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 778.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ 24.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 277.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.47 ล้านบาท

โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 461.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 4.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากบริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจโซลูชั่นระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Infrastructure) จำนวน 335.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากทยอยส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ อาทิเช่น โครงการซื้อพร้อมติดตั้งระบบ IP Core, โครงการระบบบริการสารสนเทศ และงานโครงการอื่นๆ

ในช่วงไตรมาส 2/66 และครึ่งปีแรกของปี 66 บริษัทฯ ส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้ตามแผนที่วางไว้ และทยอยรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเมื่อเทียบจากปีก่อน” นายอธิพร กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานโครงการของภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง ตามวัตถุประสงค์การใช้เงินระดมทุนเสนอขายหุ้น IPO เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายธุรกิจตามแผนที่วางไว้

โดยตั้งเป้าหมายปีนี้ได้รับงานเพิ่มอีกกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามสัญญาจ้างโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System : BESS) บนพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่ารวม 1,541.28 ล้านบาท ส่งผลให้มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็นกว่า 2.5 พันล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตอย่างก้าวกระโดด

Back to top button