‘เอเวอร์แกรนด์’ ยื่นล้มละลาย.!!

ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาฯรายใหญ่ของจีน ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กของสหรัฐฯ เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลาย


ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนิวยอร์กของสหรัฐฯ เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 15 ของกฎหมายล้มละลายโดย “เอเวอร์แกรนด์” ประสบปัญหาการผิดนัดชำระหนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้วิกฤตหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนลุกลามเป็นวงกว้าง

การยื่นคำร้องดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้กลุ่มเจ้าหนี้ในสหรัฐฯ ทำการยึดทรัพย์สินของเอเวอร์แกรนด์ ช่วงเวลาที่บริษัทกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศอื่น ๆ หลังจากบริษัทเอเวอร์แกรนด์ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ Class A และ Class C ของฮ่องกงซีอีจี (Hong Kong CEG) เพื่อให้มีเวลามากพอที่จะพิจารณาแผนการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ๆ

นับตั้งแต่วิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนเกิดขึ้นช่วงกลางปี 2564 บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งที่มียอดขายบ้านรวมกันสัดส่วน 40% ของยอดขายบ้านทั้งหมดในจีนเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเอกชน

สถานะทางการเงิน “เอเวอร์แกรนด์” เริ่มสั่นคลอน หลังจากรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการควบคุมภาวะร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสกัดการก่อหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นเสาหลักสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% การล้มละลายของเอเวอร์แกรนด์อาจส่งผลกระทบลุกลามไปยังบริษัทอื่น ๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์และสร้างความเสี่ยงต่อระบบธนาคารของจีน

“เอเวอร์แกรนด์” ประสบปัญหาอย่างหนักเรื่องการจ่ายหนี้เงินกู้ตัวเองที่ปรับขึ้นแตะ 2.44 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 11.69 ล้านล้านบาท) เมื่อสิ้นปี 2565 ที่ผ่านมา หรือคิดเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศจีน

การผิดนัดชำระหนี้ของเอเวอร์แกรนด์ช่วงปี 2564 กระตุ้นให้เกิดวิกฤตขนาดใหญ่กว่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน สร้างความเสียหายต่อเจ้าของบ้านและระบบการเงินในจีนเป็นวงกว้าง บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อื่น ๆ ในจีน รวมถึง คาเซีย (Kasia), แฟนตาเซีย (Fantasia) และชื่อเหมา กรุ๊ป (Shimao Group) ต่างผิดชำระหนี้ไปตาม ๆ กัน

อย่างไรก็ดีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่อีกแห่งอย่างคันทรีการ์เดน (Country Garden) ออกมาส่งสัญญาณว่า พวกเขากำลังพิจารณาใช้มาตรการจัดการหนี้สินหลายอย่างทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า “คันทรี การ์เดน” อาจเตรียมปรับโครงสร้างหนี้ของตัวเองเพื่อเพิ่มเงินสดของบริษัท

จุดที่น่าสนใจช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา “เอเวอร์แกรนด์” เพิ่งเปิดเผยแผนการปรับโครงสร้างหนี้ที่นักลงทุนเฝ้ารอมานาน โดยเป็นแผนขนาดใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน โดยระบุว่า พวกเขาบรรลุข้อตกลงผูกมัดกับผู้ถือหุ้นกู้ระหว่างประเทศในข้อสัญญาสำคัญของแผนการแล้ว

สำหรับ “เอเวอร์แกรนด์” ก่อตั้งปี ค.ศ. 1966 โดย “สวี่ เจียอิ้น” ในอดีตเป็นที่รู้จักกันภายใต้ชื่อ เหิงต้า กรุ๊ป (Hengda Group) ที่นครกว่างโจว ทางตอนใต้ของจีน ปัจจุบันเป็นเจ้าของโครงการต่าง ๆ มากกว่า 1,300 แห่ง ในพื้นที่ 280 เมืองทั่วประเทศจีน

โดย “เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป” มีการขยายธุรกิจออกไปมากกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่การบริหารจัดการความมั่งคั่ง, การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจนถึงการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม และเป็นเจ้าของหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ใหญ่สุดของจีน นั่นคือ กว่างโจวเอฟซี (Guangzhou FC) โดย “สวี่ เจียอิ้น” มีทรัพย์สินส่วนตัวมูลค่าประมาณ 10,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 354,000 ล้านบาท)

จากบทเรียนการล้มละลายของ “เอเวอร์แกรนด์” จะลามถึง “คันทรีการ์เดน” หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว..!!??

Back to top button