อสังหาฯ จีนตกต่ำ.. กระทบสถานะการเงินจีน
การประชุมทางวีดิทัศน์ระหว่างผู้ดูแลกฎหมายด้านการเงินของจีนในระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลส่วนท้องถิ่น เพื่อถกถึงการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงด้านการเงิน
การประชุมทางวีดิทัศน์ระหว่างผู้ดูแลกฎหมายด้านการเงินของจีนในระดับรัฐบาลกลางและรัฐบาลส่วนท้องถิ่น เพื่อถกอภิปรายถึงการแก้ไขปัญหาความเสี่ยงด้านการเงิน สมาชิกผู้เข้าร่วมประชุมรวมถึงตัวแทนจากธนาคารหลักของรัฐ, ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ และตลาดหุ้นเซินเจิ้น และสำนักบริหารของคณะกรรมาธิการกลางด้านการเงินของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการระบบการเงินของจีน
การประชุมดังกล่าว มีการเรียกร้องให้มีการประสานงานความสนับสนุนด้านการเงิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเสี่ยงของหนี้สินส่วนท้องถิ่นและการปรับเปลี่ยนนโยบายสำหรับการให้สินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยโรเดียมกรุ๊ป (Rhodium Group) เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า สถานการณ์ด้านการเงินที่อ่อนแอของรัฐบาลท้องถิ่น เป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลกลาง จากการสนับสนุนเศรษฐกิจด้วยนโยบายการคลัง โดยยอดขายที่ดิน จากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ทรุดตัวลง เป็นหนึ่งในตัวฉุดรายได้ของรัฐบาลท้องถิ่นอีกด้วย
S&P Global Ratings ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับเรตติ้งรายใหญ่สัญชาติสหรัฐฯ ระบุว่า นักลงทุนต่างมีความอ่อนไหวเป็นอย่างมากต่อแนวความคิดที่ว่า ส่วนหนึ่งของทางการจีน อาจไม่สามารถช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นเหล่านั้น ให้รอดชีวิตจากกลไกที่ขับเคลื่อนการก่อหนี้สินจำนวนมาก
โดยถึงขณะนี้ จีนได้กำหนดท่าทีหรือทัศนคติที่ค่อนข้างระมัดระวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้ง ๆ ที่ เศรษฐกิจในภาพรวมมีการเติบโตชะลอตัวลงและรายงานข้อมูลเศรษฐกิจช่วง 2-3 เดือนล่าสุด ได้อย่างน่าผิดหวังซ้ำ ๆ หลายครั้งช่วงก่อนหน้านี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการจีน เน้นย้ำว่า การป้องกันความเสี่ยงทางการเงินคือสิ่งที่ให้ความสำคัญลำดับแรก
นักวิเคราะห์จาก S&P Global Ratings ระบุช่วงต้นเดือน ก.ค.ว่าความตกต่ำในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการควบคุมโควิดเมื่อปีที่แล้ว ทำให้การเงินหลายภาคส่วนของรัฐบาลท้องถิ่นทั้งหลาย มีความตึงเครียดมากขึ้น
“สิ่งนี้ได้ทำให้ช่องว่างห่างกันกว้างมากขึ้นระหว่างมณฑลที่ใกล้ชายฝั่ง ที่มีความเจริญรุ่งเรืองของประเทศกับภูมิภาคซึ่งยากจนที่อยู่ถัดเข้ามาในผืนแผ่นดิน”
ช่วง 2-3 สัปดาห์ล่าสุด รัฐบาลปักกิ่งส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงในวิธีปฏิบัติต่อการทำนโยบายภาคอสังหาริมทรัพย์และกำหนดเป้าหมายบางอย่างในการขับเคลื่อนไปสู่การผ่อนคลายมากขึ้น
วันจันทร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค. 66) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี LPR (Loan Prime Rate) ลง 0.10% สู่ระดับ 3.45% แต่ได้คงอัตราดอกเบี้ย LPR 5 ปี เป็นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานสำหรับการจำนองบ้านไว้ ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนที่ 4.2%
โดยการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค.) สะท้อนถึงการรวมตัวกันของผู้กำหนดนโยบายทางการเงินกลุ่มใหม่ในการยกเครื่องปรับปรุงใหม่ของระบบที่มีอำนาจควบคุมของจีนช่วงปีนี้..
ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของทางการจีน ระบุว่า Pan Gongsheng ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนคนใหม่ และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม เหมือนอย่างที่เคยทำเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้นำสูงสุดของสำนักงานกำกับดูแลทางการเงินแห่งชาติของจีน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) แต่ไม่ได้ระบุคำกล่าวแต่อย่างใด.!?