มติผู้ถือหน่วย..ชี้อนาคต JASIF

การประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ไม่เพียงปลดล็อกความมั่นคงเรื่องค่าเช่า แต่จะนำไปสู่ ภาระต้นทุนดอกเบี้ยที่จะลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้


การประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุน “กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF)” ไม่เพียงปลดล็อก “ความมั่นคงเรื่องค่าเช่า” แต่จะนำไปสู่ “ภาระต้นทุนดอกเบี้ย” ที่จะลดลงในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ หากผู้ถือหน่วยมีมติอนุมัติ 3 วาระหลักคือ 1) ผ่อนผันการผิดนัดชำระค่าเช่าฯ 2) ยกเลิกค่าประกันรายได้ 3) ปรับลดและขยายสัญญาค่าเช่าฯ ในการประ ชุมวิสามัญฯ วันนี้ (23 ส.ค.)

หากย้อนดูสถานภาพของผู้เช่าเพียงรายเดียว..นั่นคือบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในนามบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB ที่พบว่า รายได้กลุ่มธุรกิจอินเทอร์เน็ตลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2565

ล่าสุดไตรมาส 2/66 ที่ผ่านมา JAS มีรายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ต 4,187 ล้านบาท ลดลง 8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 8% สวนทางกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากค่าเช่าโครงข่ายไฟเบอร์ที่เช่าจาก JASIF ที่เดิมสูงกว่าต้นทุนของผู้เล่นรายอื่น ๆ อยู่แล้วและยิ่งอัตราค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นทุกปี (ปีนี้เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน) ทำให้ต้นทุนการให้บริการโดยรวมเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบไตรมาส 2/65

แม้จะมีการควบคุมค่าใช้จ่ายแต่ยังไม่เพียงพอ ทำให้ JAS มีผลขาดทุนสุทธิ 794 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/65 ปีก่อนที่ขาดทุน 229 ล้านบาท ถือเป็นการขาดทุนติดต่อกัน 5 ไตรมาสแล้ว..

งวดครึ่งปี 2566 JAS มีกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมดำเนินงานลดลง 500 ล้านบาท จากผลประกอบการที่แย่ลง จากกระแสเงินสดที่จำกัด โดยเงินลงทุนขยายโครงข่ายใหม่ ๆ ลดลงจาก 1,202 ล้านบาท เป็น 698 ล้านบาท ทำให้ 3BB ขยายโครงข่ายได้อย่างจำกัด ทำให้ JAS จำเป็นต้องมีการก่อหนี้เงินกู้ 300 ล้านบาท เพื่อให้กระแสเงินสดเพียงพอ..!!

โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวม JASIF ระบุว่า 3BB มีแนวโน้ม “จะไม่สามารถชำระค่าเช่าหลักและสัญญาประกันรายได้” ได้ ส่งผลระยะยาว 3BB อาจไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ และเมื่อพิจารณางบกำไรขาดทุนปี 2565 ที่ผ่านมา 3BB มีผลขาดทุนสุทธิ 2,671 ล้านบาท

หากพิจารณางบกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงาน 9,388.20 ล้านบาท ต่ำกว่ากระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมการลงทุนและกิจกรรมจัดหาเงินรวมกัน 10,160 ล้านบาท

ส่งผลให้ปี 2565 3BB มีเงินสดสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 975.72 ล้านบาท เป็น 220.78 ล้านบาท เป็นเหตุผลที่ชี้ให้เห็นว่า 3BB ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงและมีความสามารถชำระหนี้สินที่ลดลง

เรื่องผลตอบแทนจากข้อเสนอใหม่ของ 3BB บลจ.บัวหลวง วิเคราะห์ว่า เงื่อนไขใหม่จะทำให้ JASIF มีกระแสรายได้รวมตลอดสัญญาสูงกว่าเดิม 38.71% หรือ 32,267.34 ล้านบาท จะมีมูลค่า ณ ปัจจุบันของกระแสรายได้รวมสูงกว่าเงื่อนไขเดิม 20.01% หรือ 12,961.30 ล้านบาท หรือมีมูลค่าปัจจุบันปันผลต่อหน่วยสูงกว่า 1.25 บาท

การปรับแก้สัญญาดังกล่าว นอกจากเป็นการสร้างผลตอบแทนและกระแสเงินสดระยะยาวที่มั่นคงมากขึ้นของ JASIF ยังเป็นการลดความเสี่ยงของ 3BB ในฐานะผู้เช่า ทำให้ 3BB สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้กระแสเงินสดรวมถึงสภาพคล่อง

ที่ขณะนี้ 3BB ต้องเผชิญและทำให้ JASIF ในฐานะผู้ให้เช่าต้องประสบปัญหาการไม่ได้รับค่าเช่าตามกำหนดเวลาและการผิดนัดชำระค่าเช่า อาจทำให้ JASIF และผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ..!!

นั่นทำให้อนาคต JASIF จึงอยู่ที่มติของผู้ถือหน่วยวันนี้..นั่นเอง..!!

Back to top button