พาราสาวะถี
ภายใน 1-2 วันนี้ น่าจะได้เห็นโฉมหน้า ครม.เศรษฐา 1 อย่างเป็นทางการ โผที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ เวลานี้เรียกได้ว่าแทบจะนิ่งเต็มที่แล้ว
ภายใน 1-2 วันนี้ น่าจะได้เห็นโฉมหน้า ครม.เศรษฐา 1 อย่างเป็นทางการ โผที่ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ เวลานี้เรียกได้ว่าแทบจะนิ่งเต็มที่แล้ว ด้วยเงื่อนไขของเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลที่มีพรรคร่วมรวมกันถึง 11 พรรค ต้องไม่มีลุงร่วมในขบวนการอำนาจรอบนี้ แต่ว่าลูกพรรคของสองลุงพาเหรดยึดเก้าอี้กระทรวงสำคัญตามที่ต้องการ มิหนำซ้ำ ยังมีโควตากลางที่เพื่อไทยบอกว่าเป็นโควตาคนนอกของตัวเอง บรรณาการให้กับคนสนิทของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเสียด้วย
บอกว่าให้จับตาดูผลของการเข้าพบลุงที่ประกาศวางมือทางการเมืองไปแล้ว ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรีกับนายกฯ คนใหม่ เศรษฐา ทวีสิน ที่นายกฯ คนที่ 30 ถึงกับบอกว่า “เป็นคนที่น่าเคารพ” มันจะจบด้วยอะไร เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเดิมทีเพื่อไทยวางตัว สุทิน คลังแสง ไปนั่งกุมบังเหียนให้เป็นพลเรือนเหมือนหลายประเทศพัฒนาแล้วที่เป็นประชาธิปไตย สุดท้ายโผก็พลิกมาลงเอยที่ “บิ๊กเล็ก” พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.
พอหวยออกมาแบบนี้ ยิ่งทำให้ไปขยายภาพดีลลับก่อนหน้าได้อย่างชัดเจนขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบรรดา สว.สายผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจถึงพากันยกมือหนุนเศรษฐาพรึ่บพรั่บ จนทำให้บรรดาพวกลากตั้งขาประจำทั้งหลายหน้าแหกกันเป็นแถว ขณะเดียวกัน การก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของบิ๊กเล็ก ก็เป็นการชี้ให้เห็นว่าการประกาศวางมือทางการเมืองของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนั้น แท้จริงแล้วได้มีการวางทายาทสืบทอดอำนาจไว้เรียบร้อยนั่นเอง
เนื่องจากบิ๊กเล็กถือเป็นนายทหารที่มีความใกล้ชิดผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจตั้งแต่สมัยรับราชการในกองทัพบก ก่อนที่จะโยกมาเป็นเลขาธิการ สมช.ในยุครัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ การที่เจ้าตัวได้นั่งเก้าอี้เสนาบดีหนนี้ ทำให้เห็นอีกด้านของทีมเจรจาจากฝ่ายเพื่อไทยจนนำมาซึ่งการปิดดีล ไม่ได้มีแค่การคุยกับขบวนการสืบทอดอำนาจเท่านั้น หากแต่ยังต่อสายกับเครือข่ายกลุ่มอีลิทผู้มีอำนาจด้วย เพราะบิ๊กเล็กเป็นอดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 20 รุ่นเดียวกับ “บิ๊กแดง” พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ.นั่นเอง
ส่วนพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. แม้ก่อนหน้าจะมีข่าวว่าเพื่อไทยไม่พอใจที่พวกลากตั้งเด็กในคาถาไม่ยอมยกมือให้เศรษฐาอาจจะมีการยึดเก้าอี้ที่เคยตกลงกันไว้คืนโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่สุดท้ายที่เห็นเงียบ ๆ กลับฟาดเรียบทุกตำแหน่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ขุนพลคู่ใจ น้องชายสุดที่รักมือดีลสำคัญของพรรคสืบทอดอำนาจ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ก็ได้นั่งเป็นรองนายกฯ ควบว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร สายตรงของธรรมนัสคนที่ประกาศความชัดเจน 40 เสียงพรรคสืบทอดอำนาจโหวตให้เศรษฐาก็ได้รับการปูนบำเหน็จเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วน สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคไปนั่งช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ฟากพรรครวมไทยสร้างชาติของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจก็ได้ตำแหน่งแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ เช่นกัน พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สุพล จุลใส พี่ชายของ “ลูกหมี” ชุมพล จุลใส คนสนิทของเทพเทือกขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย โดยมี “เสี่ยแฮ้ง” อนุชา นาคาศัย นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่สำหรับพรรคนี้มีคนที่ผิดหวังอย่างแรงคือ สุชาติ ชมกลิ่ม อดีตรัฐมนตรีแรงงานที่หวังว่าจะได้รับตำแหน่งในฐานะแกนนำคนสำคัญ กลับถูกเขี่ยชื่อทิ้งนาทีสุดท้าย ตรงนี้พอเข้าใจได้ เพื่อความสบายใจของแกนนำคนสำคัญในพรรคเพื่อไทย
พรรคสำคัญที่หัวหน้าพรรคย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นเด็กดีให้เกียรตินายกฯ คนใหม่และเพื่อไทยในการประสานความร่วมมือ และจัดโผ ครม.เต็มที่ แต่เป็นที่รู้กันรอหยิบชิ้นปลามันกันอยู่แล้วนั่นก็คือภูมิใจไทย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเป็นรองนายกฯ ควบว่าการกระทรวงมหาดไทย พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ น้องชายอาจารย์ใหญ่ของพรรคอย่าง เนวิน ชิดชอบ นั่งว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พิพัฒน์ รัชกิจประการ นายทุนคนสำคัญเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
เก้าอี้ว่าการอีกตำแหน่งเป็นของ ทรงศักดิ์ ทองศรี ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 4 เก้าอี้รัฐมนตรีช่วย ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.คนดังประจำที่มหาดไทย สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ลูกชาย สมทรง พันธ์เจริญวรกุล สตรีเหล็กนายก อบจ.อยุธยา นั่งช่วยศึกษาธิการ นภินทร ศรีสรรพางค์ เป็นช่วยเกษตรและสหกรณ์ และ ศุภมาส อิศรภักดี มือทำงานภาค กทม.ของพรรคเป็นช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมศักดิ์ศรีสำหรับพรรค สส. 71 เสียง
ส่วนเพื่อไทยนั้นพอใจกับการได้คุมกระทรวงที่ตัวเองต้องการเพื่อไว้โชว์ศักยภาพในการบริหาร โดยเศรษฐาควบว่าการกระทรวงการคลัง มี จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จากเดิมมีชื่อเป็นว่าการต่างประเทศมาเป็นรัฐมนตรีช่วยแทน แล้วให้ ปานปรีย์ พหิทธานุกร ควบรองนายกฯ และว่าการต่างประเทศ โดยรองนายกฯ ของพรรคแกนนำจะมี ชูศักดิ์ ศิรินิล ดูด้านกฎหมาย สมศักดิ์ เทพสุทิน คาดว่าดูด้านการเกษตรฯ ท่องเที่ยว และกีฬา ภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกฯ ควบว่าการกระทรวงพาณิชย์
ด้าน นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว นั่งว่าการกระทรวงสาธารณสุข สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าการคมนาคม ประเสริฐ จันทรรวงทอง ว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ว่าการท่องเที่ยวและกีฬา สุทิน คลังแสง เป็นว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รัฐมนตรีช่วยในส่วนเพื่อไทยสองเก้าอี้ไปอยู่ที่คมนาคมทั้งคู่คือ สุรพงษ์ ปิยโชติ อดีตนายก อบจ.กาญจนบุรี ที่นำพรรคเก็บเก้าอี้ สส.ได้ 5 ที่นั่ง และ มนพร เจริญศรี สส.นครพนม อดีตนายก อบจ.เช่นกัน ผู้ที่ได้รับการเรียกขานว่าเป็นครูใหญ่ สส.ของเพื่อไทย
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตกเป็นของ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม.ของเพื่อไทย โดยมี “หมอมิ้ง” นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นเลขาธิการนายกฯ หรือนายกฯ น้อย ขณะที่พรรคเล็ก 2 พรรค ชาติไทยพัฒนา วราวุธ ศิลปอาชา เป็นว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาชาติหมาด ๆ จะเป็นว่าการกระทรวงยุติธรรม แนวโน้มน่าจะลงเอยตามนี้