ไทยเนื้อหอม! ค่ายรถอีวี “เกาหลีใต้” สนใจลงทุน 20 ราย
“บีโอไอ” เผยค่ายรถอีวีเกาหลีใต้ชั้นนำกว่า 20 ราย สนใจลงทุนในไทย ด้วยประเทศไทยและเกาหลีใต้ถือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญมายาวนาน โดย 5 ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 144 โครงการ มูลค่ากว่า 58,000 ล้านบาท
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่ผ่านมา บีโอไอหารือร่วมกับ นายคัง จุงมัน นายกเทศมนตรีเมืองยองกวาง พร้อมคณะผู้บริหารและผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เป็นสมาชิกของสมาคมนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งเกาหลีใต้ (Korea Smart e – Mobility Association: KEMA) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและยานพาหนะไฟฟ้าเพื่อการเกษตร รวมกว่า 20 คน ที่ได้เดินทางเข้ามาศึกษาลู่ทางการลงทุนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยตามคำเชิญของบีโอไอ โดยบีโอไอยังได้เชิญผู้ประกอบการไทยที่เกาหลีให้ความสนใจ เช่น บริษัท พนัส เอสเซมบลีย์ จำกัด และบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรถบัสและรถยนต์เชิงพาณิชย์รายใหญ่ของไทย เข้าร่วมนำเสนอข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย
ทั้งนี้เกาหลีใต้ถือเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์และ EV ระดับโลก โดยมีผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ฮุนไดและเกีย เป็นต้น โดยเมืองยองกวาง เป็นเมืองที่มีอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV penetration rate) สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ และเป็นเมืองแรกที่รัฐบาลเกาหลีใต้กำหนดให้เป็นเมืองต้นแบบในการผ่อนปรนกฎระเบียบสำหรับรถยนต์ EV (Regulatory – free zone for e – mobility) และเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (e – Mobility Cluster) ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นร่วมกันสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแบบครบวงจร ตั้งแต่การใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งรถเชิงพาณิชย์ที่ใช้ในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม รวมถึงการส่งเสริมการจัดตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน การผลิตแบตเตอรี่ สถานีบริการอัดประจุ การพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการข้อมูลการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ สถาบันเทคโนโลยียานยนต์แห่งเกาหลี (Korea Automotive Technology Institute: KATECH) ยังได้จัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสนามทดสอบยานยนต์และศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ในเมืองยองกวางด้วย
นายนฤตม์ กล่าวต่อว่า ผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้าจากเกาหลีใต้ให้ความสนใจอุตสาหกรรม EV ในประเทศไทยอย่างมาก เนื่องจากเห็นว่า ประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาคและมีซัพพลายเชนของชิ้นส่วนต่างๆ ครบวงจร อีกทั้งภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ EV อย่างชัดเจนและตลาด EV ในประเทศไทยก็เติบโตสูงที่สุดในอาเซียน จึงสนใจเข้ามาศึกษาลู่ทางการลงทุน และหารือโอกาสการร่วมลงทุนกับพันธมิตรบริษัทไทย โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและรถเชิงพาณิชย์ที่ใช้สำหรับการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรม EV ไทยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานในหลายรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยและเกาหลีใต้ถือเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญมายาวนาน โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2561 – มิถุนายน 2566) เกาหลีใต้มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 144 โครงการ มูลค่ากว่า 58,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะและดิจิทัล