กูรูแนะเก็ง 2 หุ้นพื้นฐานแกร่ง-แข็งกว่าตลาด!SET บ่ายแกว่งแดนลบ ให้แนวรับ 1,288 จุด
SET เช้านี้ปรับตัวลงมากกว่าตลาดภูมิภาค เจอแรงขายจากหุ้นแบงก์-สื่อสาร-พลังงาน หลังราคาน้ำมันปรับลง และการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ที่ยังไม่ยุติ ทั้งนี้มองตลาดคงแกว่งไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าจะมีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา บ่ายนี้คาดดัชนีฯคงแกว่งในแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,293 แนวต้าน 1,310 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (18 ธ.ค.) เช้านี้ปรับลงแรง หลังเจอแรงขายจากหุ้นขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น หุ้นในกลุ่มแบงก์-สื่อสาร-พลังงาน ส่วนตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลง และการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ที่ยังไม่ยุติ
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย คงแกว่งในแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,293 แนวต้าน 1,310 จุด ขณะที่ แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นที่แข็งกว่าตลาด และมีปัจจัยหนุน เช่น BEAUTY-CHG ที่พื้นฐานแกร่ง และเป็น Top Pick ทาง Fundamental
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้ปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบราว 0.2-0.5% มีเพียงตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นอินโดนีเซียที่ปรับตัวลงมาก โดยตลาดบ้านเราก็รับแรงขายจากหุ้นขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มแบงก์, กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มพลังงาน จึงส่งผลให้ตลาดโดยรวมปรับตัวลง
ทั้งนี้ ปัจจัยนอกเหนือจากที่ตลาดต่างประเทศต่างปรับตัวลงแล้ว ยังมีราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงด้วย และกลุ่มสื่อสารก็มีเรื่องการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ที่ประมูลกันในราคาที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดียังต้องติดตามดูการประมูลต่อไป
อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดฯคงจะแกว่งตัวไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อรอปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเพิ่ม เนื่องจากเม็ดเงินจากองทุน LTF ก็ได้ซื้อไปพอควรแล้ว และเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติก็ยังไม่กลับมา ดังนั้นสิ่งที่จะเป็นปัจจัยบวกให้กับตลาดฯได้ ก็น่าจะเป็นเรื่องการประมูลงานของภาครัฐฯที่จะออกมาใหม่ และ/หรือเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติที่จะกลับมาอีกครั้ง
แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีหุ้นไทยคงจะแกว่งในแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,293 จุด ส่วนแนวต้าน 1,310 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 18 ธ.ค.) ว่า SET ปรับลงตามภูมิภาค แต่โดยหลักแล้วจากกลุ่มหุ้น ICT ที่การประมูลคลื่น 4G ยืดเยื้อและ กลุ่มหุ้นพลังงาน ที่ราคาน้ำมันที่ยังตั้งตัวไม่ได้ หากการประมูลฯ ยังยืดเยื้อต่อไป SET อาจกลับมาตั้งหลักไม่ได้ โดยทางเทคนิค ในระยะสั้นหาก SET กลับมายืนเหนือ 1,295-1,298 ไม่ได้ จะเสี่ยงกลับลงไปทดสอบที่ 1,280 จุด เป็นอย่างน้อย
ทั้งนี้ แนะนำ “เก็งกำไร” ในหุ้นที่แข็งกว่าตลาด และมีปัจจัยหนุน เช่น BEAUTY-CHG ที่พื้นฐานแกร่ง และเป็น Top Pick ทาง Fundamental
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ BECL หรือ BMCL เพื่อแปลงเป็น BEM หรือจะทำ Pair-Trade: ให้ใช้อัตราส่วนราคา BECL หาร BMCL หากเกินกว่า 20.5833 ซื้อ BMCL แต่ถ้าน้อยกว่าให้ซื้อ BECL
บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ ( 18 ธ.ค.) ดัชนี SET ช่วงเช้าปิดลบ ส่วนตลาดภูมิภาคอ่อนตัว ขณะที่ การประชุมคณะกรรมการของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจที่จะยังคงใช้นโยบายในการเพิ่มฐานเงินที่อัตราราว 80 ล้านล้านเยนต่อปี ผ่านทางการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่
อย่างไรก็ตาม BOJ ระบุว่า จะขยายระยะเวลาการซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลภายใต้โครงการผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ แถลงการณ์ภายหลังการประชุมยังระบุว่า BOJ จะใช้จ่ายเงินราว 3 แสนล้านเยนหรือมากกว่า ในการซื้อกองทุน ETF
สำหรับปัจจัยในประเทศ ศึกชิงคลื่น 900 MHz วันที่ 4 รอบ 173 เคาะใบแรก 67,604 ลบ.ใบสองมาที่ 69,858 ลบ. ส่วนสศก. เปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตรปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 2.5 – 3.5 ซึ่งปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ภาคเกษตรกลับมาขยายตัวได้ในปี 2559
เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัว มีการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภาคเกษตรมากขึ้น เช่น โครงการ motor pool การปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตร และสถานการณ์ ดินฟ้าอากาศที่จะไม่รุนแรงไปกว่าปีนี้
แนวโน้มภาคบ่ายเชิงเทคนิค แท่งเทียนระยะสั้น 5 นาที ปิดตัวในรูปแบบที่ดี ไม่สร้างจุดต่ำสุดใหม่ มีแนวโน้มที่ภาคบ่าย ดัชนีจะรีบาวน์กลับขึ้นทดสอบ 1,292/1,296 จุด แนะนำ ทะยอยซื้อแนวรับ 1,288/1,280 จุด
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
BMCL มูลค่าการซื้อขาย 1,148.92 ล้านบาท ปิดที่ 2.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,139.63 ล้านบาท ปิดที่ 194.50 บาท ลดลง 4.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,106.90 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
TKN มูลค่าการซื้อขาย 923.94 ล้านบาท ปิดที่ 9.20 บาท ลดลง 0.15 บาท
BECL มูลค่าการซื้อขาย 675.48 ล้านบาท ปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์