SKY บวก 4% ลุ้นรายได้ Q3 สดใสรับ “ไฮซีซั่น” – รอคว้างานใหม่ 4 พันล้าน
SKY วิ่งแรง 4% ลุ้นผลงานปี 66 โตเท่าตัว หลังมั่นใจไตรมาส 3/66 ขยายตัวต่อเนื่อง ฟากแบ็กล็อกล้น 2.2 หมื่นล้านบาท รอคว้างานใหม่ 2 งาน มูลค่ารวม 4 พันล้านบาทเร็ว ๆ นี้ ส่วนงานประมูลบริการภาคพื้นรายที่ 3 สุวรรณภูมิ ปิดจ๊อบเดือน ต.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ก.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ณ เวลา 10:05 น. อยู่ที่ระดับ 35.50 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 4.41% สูงสุดที่ระดับ 36.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 34.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108.92 ล้านบาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายสิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SKY เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ราคาหุ้น SKY ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาช่วงนี้ อาจเป็นเพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ซึ่งมีหุ้นหลายตัวที่ตอบรับประเด็นดังกล่าว ทั้ง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW
อย่างไรก็ตาม เฉพาะหุ้น SKY นั้น มั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 66 จะเติบโตดีกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ จากปี 65 ที่กำไรสุทธิ 213 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกปี 2566 มีกำไรสุทธิกว่า 201 ล้านบาท เกือบเท่าทั้งปีที่ผ่านมา ส่วนจะเติบโตเป็น 100% หรือไม่นั้นคงต้องมาลุ้นกัน
โดยสาเหตุจากตัวเลขนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 3/66 ขยับขึ้นมาสูงกว่าไตรมาส 2/66 โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 จะเติบโตกว่าไตรมาสที่ 2/66 ดังนั้นจึงมองว่านักลงทุนอาจเข้ามาเก็งกำไรผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้
ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานใหม่อีก 2 งาน มูลค่ารวม 4 พันล้านบาท ได้แก่ งานระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 และ งานวางระบบคลาวด์ ของกระทรวงสาธารณสุข โดยงาน 191 จะรู้ผลการประมูลในเดือนนี้ ส่วนงานระบบคลาวด์ จะรู้ผลการประมูลในกลางเดือนกันยายนนี้
สำหรับการประมูลงานให้บริการลานจอดและอุปกรณ์ภาคพื้นการให้บริการผู้โดยสารภาคพื้นและกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของผู้ประกอบการรายที่ 3 มูลค่าประมาณ 4,800 ล้านบาท และโครงการให้บริการคลังสินค้า ของผู้ประกอบการรายที่ 3 มูลค่าประมาณ 6,500 ล้านบาท ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผ่านบริษัทร่วมทุนบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ที่จะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ SKY มีความมั่นใจว่า AOTGA จะเป็นผู้ชนะประมูล คาดว่ารับรู้รายได้ในปี 67
นายสิทธิเดช กล่าวว่า งานในมือของบริษัท หรือ แบ็กล็อก ณ ไตรมาสที่ 2/2566 อยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท และภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 2.3 หมื่นล้านบาท จากงานใหม่ที่คาดว่าจะทยอยเข้ามาในครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทมั่นใจว่าปีนี้ผลการดำเนินงานจะออกมาดีอย่างแน่นอน