“นายก” หารือบีโอไอเร่งผลักดัน ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
นายกฯและคณะทำงาน หารือร่วมกับ เลขาธิการบีโอไอ เร่งเดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการลงทุน คาดเห็นผลใน 2 - 3 ปี
วันที่ 7 ก.ย. 66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านนโยบายการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย หารือกับนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เกี่ยวกับการเดินหน้าการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงทุนจากต่างประเทศและการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในไทย (FDI) ต้องใช้ระยะเวลานาน หากไม่เริ่มดำเนินการในวันนี้ จะเห็นผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยในอีก 2-3 ปี จึงต้องเร่งทำงานทันที พร้อมทั้งต้องเร่งเตรียมการเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 18-24 ก.ย.66 กับบีโอไอ ซึ่งต้องพบปะกับนักธุรกิจจากหลากหลายประเทศ วันนี้ทางบีโอไอเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อจะได้เร่งเดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการลงทุนในไทย ยืนยันว่าโครงการใดที่มีประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม จะผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการรอพิจารณาจะรับฟังข้อมูลต่อเนื่องเพื่อทำงานร่วมกันต่อไป
สำหรับภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในไทย ในปี 61 – มิ.ย.66 ที่ผ่านมากลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่ารวม 1.8 ล้านล้านบาท โดยพบว่าประเทศญี่ปุ่น มีการขยายการลงทุนเพิ่มต่อเนื่องในกลุ่มบริษัทเดิม และจีนมีการขยายลงทุนต่อเนื่องในกลุ่มบริษัทใหม่ ส่วนภาพรวมการลงทุนในไทย ยังมีโครงการที่รอการพิจารณาโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 29,862 ล้านบาท และโครงการที่รอพิจารณาตาม พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ กว่า 21 โครงการ