SCC ราคาต่ำกว่าบุ๊กแวลู
ราคาหุ้น SCC ไม่เคยต่ำกว่าบุ๊กแวลูเลยไม่ว่าจะมีกำไรลดลงเท่าใดก็ตาม มีก็เฉพาะปีนี้เองที่ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ
ราคาหุ้น SCC หรือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ไม่เคยต่ำกว่าบุ๊กแวลูเลยไม่ว่าจะมีกำไรลดลงเท่าใดก็ตาม มีก็เฉพาะปีนี้เองที่ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ
ราคาตามบุ๊กแวลูล่าสุดอยู่ที่ระดับ 317 บาท แต่ราคาหน้ากระดานเหลือเพียงแค่ 312 บาท
น่าซื้อยิ่งนักเมื่อคิดจากอนาคตของหุ้นตัวนี้ แม้ว่ากำไรที่ยังคงหดหายจากการตกต่ำของธุรกิจหลักคือปิโตรเคมีและวัสดุก่อสร้างจะยังคงกดดันราคาหุ้นไม่ให้วิ่งไปไหนได้ไกล แต่แรงเชียร์ซื้อของนักวิเคราะห์ทุกสำนักก็ยังคงทำให้น่าสนใจต่อไป อนาคตของหุ้นอุตสาหกรรมพื้นฐานรายใหญ่ของอาเซียนที่มีการรุกข้ามพรมแดนเข้าไปสู่ตลาดเวียดนามและอินโดนีเซียที่มีอนาคตใหญ่กว่าตลาดไทย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามากกว่า 3 แสนล้านบาทที่รอวันผลิดอกออกผล
ก่อนหน้านี้เคยมีคนวิเคราะห์ถึงราคาหุ้น SCC ที่ไม่เคยต่ำกว่าบุ๊กว่า เรื่องนี้ถือเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของตลาดหุ้นไทย ที่จะบอกว่าเพราะจ่ายเงินปันผลได้ยอดเยี่ยม และหรือ……รายชื่อของผู้ถือหุ้นใหญ่สุดก็ไม่น่าจะมีส่วนมากนัก
ต้นปี 2565 ราคาของหุ้น SCC วิ่งทำนิวไฮในรอบหลายเดือนยาวนานพอสมควร แต่แล้วราคาก็ลดลงมายืนอยู่แถว 320-330 บาท โดยนักวิเคราะห์ทุกสำนักเชื่อมั่นว่า จะไม่ยอมลงไปกว่านี้อีก แม้ว่ากำไรสุทธิงวด 9 เดือนจะลดลงกว่าปีก่อนมากถึงกว่า 60% หลังกำไรปี 64 โต 38% แล้วก็จ่ายปันผลให้ยีลด์สูงกว่าตลาดอีก 2.6% แถมจ่อดัน SCGC เข้าตลาดหุ้นในปีนั้น แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้น
ประเด็นนี้กลายเป็นคำถามหลักว่า SCC จะมีความสามารถในการระดมทุนผ่านตลาดหุ้นทางลัดได้เหมือนเป้าหมายหรือไม่ หลังจากช่วงที่ผ่านมาทำได้ต่ำกว่าที่สำนักวิเคราะห์ของโบรกเกอร์คาดเดา
เดิมทีนั้น คำอธิบายสำหรับการที่ราคาหุ้นไม่ตกต่ำลงไป แต่ย่ำฐานแถว 320-330 บาท เคยตั้งอยู่บนความรู้และมุมมองที่ต้องรอให้วัฏจักรรอบใหม่ของธุรกิจในปี 2566 จะกลับเป็นขาขึ้นใหม่ยุคหลังโควิด-19 ผ่านไปและเข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ ตามการเก็บเกี่ยวรายได้เต็มที่ จากการลงทุน 5 ปีที่ผ่านมา กว่า 3 แสนล้านบาท ในอาเซียนทั้งธุรกิจกระดาษ และปิโตรเคมี นี้ยังไม่รวมถึงธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่ขยายตัวไม่ได้หยุดยั้งผ่านเครือข่าย แถมยังมีธุรกิจจัดส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์อีก ที่สามารถจะระดมทุนในตลาดทุนหลายประเทศที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับบริษัทเครือข่ายอีกมากหลาย
ความคาดหวังในเรื่องอนาคตอย่างนี้ เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับก้าวย่างสู่อนาคตครั้งใหม่ของ SCC ที่ยั่งยืน แต่คำว่าราคาหุ้นที่ยั่งยืนนั้นไม่เคยมีอยู่จริง มีแต่ขึ้นหรือลงเท่านั้น แต่แล้วตลาดหุ้นก็ทรุดตัวลงความแน่นอนไม่ได้เกิดขึ้นเมื่อราคาหุ้น SCC ถดถอยลงไปใต้ 310 บาทหลังจากติดโรคเลื่อนในการที่บริษัทในเครือไม่สามารถเข้าระดมทุนใหม่จากตลาดได้จนส่งผลให้กำไรสุทธิและเงินปันผลต่ำลง
ที่ผ่านมา SCC ได้ก้าวพ้นจากการเป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าวัสดุก่อสร้าง เข้าสู่การเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนทางด้านอุตสาหกรรมพื้นฐานของอาเซียน ซึ่งมีพื้นฐานหลัก 3 ด้านได้แก่ วัสดุก่อสร้าง กระดาษ และ ปิโตรเคมี โดยมีบริษัทแม่ทำตัวเป็นโฮลดิ้งคอมพานีมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งยังผลให้ความสามารถทำกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นชัดเจน สร้างผลตอบแทนต่อยอดขายสูงขึ้น เช่นเดียวกับบริษัท อินทัช และ ปตท. ที่ก้าวล่วงไปก่อน
การเตรียมนำบริษัทในเครือ อย่าง SCG Chemicals (SCGC) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในปี 2565 โดยกำหนดเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 25.2% ของทุนชำระ จะเป็นหมัดเด็ดในอนาคต จะเป็นการปลดล็อกมูลค่า ให้กับธุรกิจเคมิคอลส์ของ SCC นอกจากนั้น แผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ยังจะหนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของบริษัท
เพียงแต่เงื่อนไขของการระดมทุนขนาดใหญ่ของ SCC จะทำให้ราคา SCC วิ่งขึ้นไปจากราคาที่ฐานแบบที่ระดับปัจจุบันจะเดินหน้าแค่ไหน จะต้องรอเวลาเท่าใดนั้น คงต้องถามบรรดาพี่เลี้ยงทั้งหลายว่าจะต้องการที่เท่าใดกันแน่
ถึงเวลานั้น อนาคตจะเป็นตัวกำหนดว่าราคาหุ้น SCC ที่ระดับแถวนี้ถูกไป หรือแพงเกิน คงต้องขึ้นกับความสามารถผ่านการระดมทุนทางลัดของบริษัทในเครือข่ายเพิ่มเติมว่าจะบรรลุผลตามเป้าได้หรือไม่