SUPER เด้ง 6% ลุ้นครึ่งหลังโตดี จ่อ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม 30 MW
SUPER เด้ง 6% ลุ้นครึ่งหลังโตดี แย้มเจรจาพันธมิตรอินโด-มาเลย์ ที่จะขายไฟให้สิงคโปร์ จ่อ COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม 30 MW หนุนกำลังผลิตปีนี้ 1,652.32 MW
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้(8 ก.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ณ เวลา 11:45 น. อยู่ที่ระดับ 0.52 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 6.13% สูงสุดที่ระดับ 0.52 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.49 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 288.07 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER เปิดเผยว่า บริษัทเห็นโอกาสจากความร่วมมือด้านพลังงาน ในการซื้อขายพลังงานในระดับภูมิภาค เนื่องจากบริษัทมีเทคโนโลยี Solar Hybrid สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง รายเดียวในไทย
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย จำนวน 2-3 ราย ที่จะขายไฟฟ้าให้ประเทศสิงคโปร์ เพื่อนำเทคโนโลยี Solar Hybrid เข้าไปเสนอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขายไฟฟ้าให้มากขึ้น จากปัจจุบันสิงคโปร์มีความต้องการพลังงานทดแทนสูง และวางแผนจะซื้อไฟฟ้าจากประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ตามโครงการเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid)
นอกจากนี้ มีแผนลดต้นทุน โดยลดอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะจากเงินกู้ต่างประเทศ จากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ในระดับสูงที่ 8% ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบกับการหาพันธมิตรเข้ามาร่วมในโครงการต่าง ๆ รวมถึงเร่งชำระหนี้สถาบันการเงิน เพื่อให้ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น
สำหรับภาวะตลาดหุ้นกู้ที่ซบเซาในช่วงนี้ เชื่อว่าจะไม่กระทบการออกหุ้นกู้ของ SUPER เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่น ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่เป็นสัมปทานให้กับภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีรายได้ที่แน่นอนในระยะกว่า 17 ปีข้างหน้า ระดับหมื่นล้านบาทต่อเนื่อง ทำให้มีความมั่นใจว่าบริษัทจะมีความสามารถในการชำระหนี้ได้
ด้านแนวโน้มผลดำเนินงานในปี 2566 เชื่อว่ายังเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ตามแผน โดยเฉพาะรายได้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 9,571 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้ 5,208 ล้านบาท เนื่องจากมีปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้ามากขึ้นทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าในพอร์ตปัจจุบันมี 133 โครงการ กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 1,608.32 เมกะวัตต์ (MW) โดยมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าพลังงานลม และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เป็นต้น
ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่ (SPP HYBRID) ปริมาณการขายไฟฟ้าตามสัญญา 16 เมกะวัตต์ จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งร่วมกับแบตเตอรี่สามารถผลิตและขายไฟฟ้าได้ 24 ชั่วโมง โดยได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์เมื่อต้นปี 2566 สร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกสร้างรายได้ 100 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นสูงกว่า 40% และยังได้รับความสนใจจากบริษัทขนาดใหญ่ในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทเชื่อว่าจะเติบโตได้ดี ซึ่งจะมีโครงการที่สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้เพิ่มเติม ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่เวียดนาม Soc Trang กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเปิดดำเนินงานภายในช่วงปลายปีนี้ รวมทั้งโครงการพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์กับมหาวิทยาลัยมหิดล กำลังการผลิต 14 เมกะวัตต์ จะเริ่มทยอยขายไฟตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้ เป็นต้นไป
“SUPER พยายามเดินตามแผนที่วางไว้ และโฟกัสโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมมองหาโอกาสการลงทุนในรูปแบบควบรวมหรือซื้อกิจการ (M&A) นอกจากนี้เร่งบริหารค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ย ไปพร้อมกัน ทำให้มั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมีรายได้อยู่ที่ใกล้ 10,000 ล้านบาท ส่วนกำลังการผลิตวางไว้ 2,100 เมกะวัตต์ ใน 3 ปีข้างหน้า (ปี 2569) จากปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 1,652.32 เมกะวัตต์” นายจอมทรัพย์ กล่าว