WTF..?

ก่อนอื่นอยากแจ้งกับมิตรสหายทั้งหลายว่า เดี๊ยนไม่ใช่คน “หยาบคาย ถ่อยสถุล” แต่อย่างใด และอยากให้เข้าใจเจตนาที่จั่วหัวแบบนี้ เพราะต้องการสื่อให้ทุกคนเข้าใจว่า “เหรียญมีสองด้าน” และความหมายของ WTF ก็คือ “What The Fact” หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ “อะไรคือความจริง” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นมีหลายประเด็นที่ยังคลุมเครือ และสร้างความสับสนให้กับนักลงทุนกันเป็นแถวน่ะซี

เหมือนกับการทะยานขึ้นของดัชนีก่อนหน้านี้ ใคร ๆ ก็เชื่อว่า จะวิ่งขึ้นไปถึง 1,600 จุด แต่เอาเข้าจริงกลับถูกดักเทขายตรงบริเวณ 1,580 จุด จนร่วงลงมายืนที่บริเวณ 1,550 จุด มันเป็นเรื่องที่บีบหัวใจนักเล่นเหลือเกิน เพราะแค่สองทางเลือกที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็คือ “ขึ้นใหม่” กับ “ลงต่อ” พร้อมกับหยิบยกคำอธิบายมากมายมาเล่าให้ฟังแบบนี้ มันสื่อให้เห็นว่า นักเล่นยังไม่พร้อมลุยต่อนะคะ

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ดัชนียืนป้อแป้ พร้อมวอลุ่มเทรดที่บางลง ก่อนจะลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,547.17 จุด ลบไป 3.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.47 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ทำให้เดี๊ยนอึดอัดใจเหลือเกิน เพราะเหตุการณ์ในทำนองนี้อาจดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ หลังรัฐบาล “เสี่ยนิด” ที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่เป็นโล้เป็นพาย จนบางคนเริ่มสงสัยในฝีมือรัฐบาลชุดนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับทิ้งท้ายให้คิดว่า ถ้าเก่งจริงเหมือนที่ปากพูด ตลาดหุ้นน่าจะไปต่อสบาย ๆ นะจ๊ะ

ส่วนคนที่ลำบากสุด ๆ คงหนีไม่พ้น “เจ๊แอน” ซึ่งเป็นแม่ทัพใหญ่ JKN ก็ยังถูกสังคมตั้งคำถามถึงจำนวนหุ้นที่ “เข้า ๆ ออก ๆ” มันมาจากไหนบ้าง? รวมถึงเรื่องจะฟ้องสื่อที่รายงานข่าว ก็ทำให้อีฉันตกกะใจอย่างแรงว่า เจ๊จะไปเปิดศึกหลายด้านทำไม? เพราะมองไม่เห็นประโยชน์ที่จะทำเช่นนั้น สู้เอาเวลาไปแก้ไขปัญหาหุ้นกู้ และสภาพคล่องจะดีกว่าไหม? เพื่อทำให้ทุกคนเห็นว่า อาเจ๊ตั้งใจทำงานเจ้าค่ะ

สำหรับราคาหุ้นในกระดานที่ดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.17 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 11.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180 ล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการเล่นสั้น ๆ ในระหว่างที่รอเจ๊แก้ปัญหาการเงิน ซึ่งอาจเป็นเกมที่ลากยาวก็ได้ หากแก้ปัญหาดังกล่าวสำเร็จ แต่ในขณะเดียวกันต้องเผื่อใจว่า อาจเป็นการเล่นแบบตีหัวเข้าบ้านก็ได้ เพราะราคาหุ้นลงมาลึกเหลือเกิน บรรดาสิงห์เดย์เทรดถึงกระโจนเข้ามาเล่นพะย่ะค่ะ

เม้าท์ถึงพวกเดย์เทรดขึ้นมาทั้งที ก็ต้องมองไปที่หุ้นร้อนอย่าง ZIGA กันสักหน่อย เพราะคนในแวดวงค้าเหล็กเม้าท์เป็นเสียงเดียวกันว่า ยุคนี้คนขายเหล็กเหนื่อย เพราะแทบจะหากำไรไม่เจอ จึงกลายเป็นคำถามยิงตรงไปถึง “เสี่ยหนุ่ย” จริงไหม? และเรื่องราวตรงนี้จะกระเทือนกับกระแสเงินสดหรือเปล่า? ขณะที่ราคาหุ้นมาปิดที่ระดับ 2.44 บาท ลบไป 0.04 บาท หรือลงไป 1.61% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาทมันสมเหตุสมผลไหม?..อิอิอิ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอี้ยวคอไปมองหุ้น BIOTEC หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นอีกครั้ง และกำลังกระดึ๊บขึ้นอย่างช้า ๆ จนล่าสุดเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.69 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20 ล้านบาท ท่ามกลางตัวเลขบรรทัดสุดท้ายในงบแดงแป๋แบบนี้ มันหมายความว่า ไตรมาสนี้จะพลิกกำไรใช่ไหม? บรรดานกรู้ถึงเริ่มไล่ราคาหุ้นอีกครั้งเจ้าค่ะ

อีกรายที่แปลกประหลาดสุด ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่ราชาเฟอร์รี่ RP เป็นรายถัดมา หลังเจ้ามือลากหุ้นแบบ “โนสน โนแคร์” เป็นวันที่ 3 จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นไปถึง 2.14 บาท ก่อนจะโรยตัวลงมาปิดที่ระดับ 1.78 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า นี่เป็นเกมปั่นหุ้นธรรมดา ๆ ไม่ได้มีอะไรมากมาย (ยังขาดทุนบานเบอะอยู่เลย) และอีกวันสองวันก็คงเลิกวงกระมัง!

ตบท้ายกันที่เสียงเชียร์ให้ RS เปิดโครงการจ่ายปันผลพิเศษ หลังรับเงินจาก universal music เข้ามาในบริษัทมากถึง 1,600 ล้านแบบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่น่าติดตามดูเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการอัพแวลูให้กับราคาหุ้นในกระดานโดยตรง และยังเป็นการสร้างกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้นในคราวเดียวกัน เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 14.30 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26 ล้านบาท น่าสนใจอีกครั้งจ้า!