นโยบาย ‘ระวังเนื้อระวังตัว’.!?
การประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายนโยบายรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ถูกสมาชิก สส. ฝ่ายค้าน และ สว. มีการวิพากษ์วิจารณ์คำแถลงนโยบายว่า “ไม่ตรงปก”
การประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายนโยบายรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” วันแรก (11 ก.ย. 66) ถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่ายค้านและสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มีการวิพากษ์วิจารณ์คำแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีคนที่30 ว่า “ไม่ตรงปก” ไม่ตรงกับที่เคยหาเสียงเอาไว้ พร้อมตั้งฉายาว่าเป็น “นโยบายล่องหน” ด้วยความที่ขาดรายละเอียด.!!
โดยนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภา ส่วนฝ่ายค้านได้เวลาอภิปรายและให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล 14 ชม. โดยพรรคก้าวไกล ประมาณ 30 คน ส่วนสว.อภิปรายประมาณ 50 คน
หนึ่งนำไฮไลต์สำคัญ..คือ “ดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 10,000 บาท” ที่ถูกกล่าวถึงว่าไม่มีรายละเอียดที่จับต้องได้เลย
มีการหยิบข้อมูลช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ “พรรคเพื่อไทย” มีการแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าการดำเนินโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะใช้เงินงบประมาณ 560,000 ล้านบาท ด้วยการใช้การบริหารระบบงบประมาณปกติและบริหารระบบภาษี..
โดยงบประมาณที่ใช้มาจาก 4 แหล่ง….
1) ประมาณการว่าปี 2567 รัฐจะจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้น 260,000 ล้านบาท
2) การจัดเก็บภาษีนิติบุคคลจะเพิ่ม 100,000 ล้านบาท
3) การบริหารจัดการงบประมาณ 110,000 ล้านบาท
4) การบริหารงบประมาณด้านสวัสดิการที่ซ้ำซ้อน 90,000 ล้านบาท
แต่ดูเหมือนว่า “ถ้อยแถลงนโยบาย” ไม่ได้มีบรรจุเรื่องดังกล่าวไว้เลย..!??
อีกจุดหนึ่งที่ “รัฐบาลเศรษฐา” ถูกฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายโจมตีอย่างหนัก นั่นคือ “นโยบายหาเสียง” กับ “คำแถลงนโยบาย” ต่อรัฐสภา..ที่ถูกหยิบขึ้นมาเปรียบเทียบดูแล้ว..แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
เริ่มจาก “การพักหนี้เกษตรกร” นโยบายหาเสียงระบุว่า “พักหนี้เกษตรกร 3 ปี รายได้เพิ่มเป็น 3 เท่า” แต่ที่ปรากฏในคำแถลงนโยบาย “พักหนี้ตามความเหมาะสม รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
ตามมาด้วย “ค่าแรงขั้นต่ำ” นโยบายหาเสียงระบุว่าเพิ่มคุณภาพชีวิต ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ภายในปี 2570 แต่ที่ปรากฏในคำแถลงนโยบาย “ค่าแรงขั้นต่ำเป็นธรรม เงินเดือนเป็นธรรม” หรืออย่างกรณีรายได้ครัวเรือน ที่หาเสียงว่า “ลดความเหลื่อมล้ำทุกครัวเรือนมีรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาท” แต่คำแถลงนโยบายมีเพียงแค่ “ทุกครัวเรือนมีรายได้เพิ่มขึ้น”
หรืออย่างอีกเรื่อง “ยาเสพติด” หาเสียงว่า “ปราบยาเสพติด เห็นผลใน 1 ปี” แต่ว่าในคำแถลงนโยบาย “ปราบยาเสพติดโดยเด็ดขาด”
อีก 2 เรื่อง ที่ดูเหมือนจะถูกโฟกัสมากสุดคือราคาน้ำมัน-ก๊าซ ค่าไฟฟ้า ที่นโยบายหาเสียงว่า “ลดราคาน้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าซหุงต้มทันที” แต่คำแถลงนโยบาย “บริหารจัดการค่าไฟ ค่าก๊าซหุงต้ม และน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมทันที”
และ “ค่าโดยสารรถไฟฟ้า” นโยบายเสียงว่า “รถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย”..แต่ไม่ปรากฏในคำแถลงนโยบาย..แต่อย่างใด..!?
แหละนี่จึงเป็นที่มาของคำว่า “นโยบายไม่ตรงปก” หรือ “นโยบายล่องหน” ที่วิพากษ์กันอย่างแพร่หลายนั่นเอง..!?
แต่เอาล่ะ..ด้วยเงื่อนไข “รัฐบาลผสมข้ามสายพันธุ์” และพรรคร่วมรัฐบาลมากถึง 11 พรรค ทำให้การจัดทำนโยบายจึงต้องทำอย่างระแวดระวัง..จนต้องออกมาเป็น “นโยบายระวังเนื้อระวังตัว” อย่างที่เห็นนั่นเอง..!?