คนดีผีคุ้ม? CPALL ให้ “ก่อศักดิ์” พร้อมพวกนั่งบอร์ดบริหารต่อ

สุดอึ้ง! คณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระ CPALL ไฟเขียวให้ “ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์” “พิทยา เจียรวิสิฐกุล” “ปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล” 3 ผู้บริหารในกลุ่ม CPALL ดำรงตำแหน่ง-ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ หลังจากก.ล.ต.สั่งปรับกรณีใช้ข้อมูลอินไซต์เดอร์ MAKRO


บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ระบุว่า สืบเนืองจากประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2558 เกี่ยวกับกรณีที่มีคำสั่งเปรียบเทียบ (1) นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ (2) นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล (3) นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล และ (4) นายอธึก อัศวานันท์ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้บริหารในกลุ่ม CPALL และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO เป็นเงินรวม 33,339,500 บาท

ทั้งนี้ที่ประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบในวาระพิเศษซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2558 โดยมีกรรมการอิสระของบริษัทเข้าร่วมประชุมด้วย ได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงหน้าที่ในฐานะผู้แทนของผู้ถือหุ้นทุกรายของบริษัท

โดยที่ประชุมรับทราบว่าคุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ คุณพิทยา เจียรวิสิ ฐกุล และคุณปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ได้ยอมรับในคำตัดสินของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยได้รับการเปรียบเทียบปรับแล้ว และได้พิจารณาข้อเท็จจริงต่างๆ อย่างถี่ถ้วน โดยคำนึงถึงการลงโทษของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ตลอดจนพฤติกรรมและผลงานในอดีต

รวมทั้งคุณสมบัติและประสบการณ์อันโดดเด่นของบุคคลเหล่านี้ ซึ่งหาทดแทนได้ยาก โดยเปรียบเทียบกับผลกระทบและผลประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ และความเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก คณะกรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระจึงลงความเห็นว่า ยังสมควรที่จะให้บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

อย่างไรก็ดี ด้วยความเคารพในการตัดสินของสำนักงาน ก.ล.ต. บริษัทควรจะพัฒนาและปรับปรุงแนวทาง และกระบวนการ ตลอดจนการอบรมพนักงานในเรื่องบรรษัทภิบาล เพื่อให้บริษัทดำเนินธุรกิจบนมาตรฐานบรรษัทภิบาลตามที่สาธารณชนต่างคาดหวัง จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่ประชุมจึงมีมติดังต่อไปนี้

1. จัดตั้งคณะกรรมการบรรษัทภิบาล อันจะช่วยเสริมระบบบรรษัทภิบาลในปัจจุบันให้มีความรัดกุมและครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งต่อไปพิจารณาให้ความเห็นชอบ

2. แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญอิสระด้านบรรษัทภิบาลจากภายนอก ซึ่งรวมถึงที่ปรึกษากฎหมาย และการตรวจสอบ เพื่อทบทวนจุดอ่อนในโครงสร้างและกระบวนการด้านบรรษัทภิบาลต่างๆ รวมทั้งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุง โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะรายงานต่อคณะกรรมการบรรษัทภิบาล

3. กำหนดให้จัดการอบรมที่มีเนื้อหาครอบคลุมอย่างสม่ำเสมอแก่กรรมการและผู้บริหารของบริษัทตลอดจนผู้ใดก็ตามที่อาจเข้าถึงข้อมูลที่มิได้เผยแพร่ต่อสาธารณะ เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญ และให้ปฏิบัติตน ตามกฎข้อบังคับของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

Back to top button