บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินกลุ่มสื่อสาร-มอง ADVANC ได้เปรียบคู่แข่ง

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุม FOMC เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในสัปดาห์นี้ตลาดเริ่มโดนกดดันจากปัจจัยใหม่ คือ การคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกกี่ครั้ง ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า น่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3-4 ครั้ง โดยจะต้องพิจารณาจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ด้านการประมูลคลื่น 4G เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้สถานะการแข่งขันโดยรวมของตลาด Telecom มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา คือ JAS  (บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล) ที่เป็นหนึ่งในผู้ชนะการประมูล ดังนั้น คาดว่านักวิเคราะห์จะต้องมีการประเมินราคาหุ้นในกลุ่มนี้กันใหม่ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะมีการขายหุ้นกลุ่มนี้กันออกมา

บล.เอเชีย เวลท์ มองว่าถ้าหุ้นเหล่านี้ราคาลงมามากน่าจะเป็นโอกาสเก็บหุ้นที่ดี มองว่าที่ได้เปรียบ คือ ADVANC น่าจะอยู่ในสภาวะโดยรวมที่ได้เปรียบ แม้จะไม่ได้ License 900 MHZ แต่น่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากการประมูลต่อกำไรน้อยที่สุด เพราะผู้ประกอบการอื่น ทั้ง TRUE และ JAS  น่าจะต้องมีการเพิ่มทุนและลงทุนกันอีกมากหลังจากชนะการประมูล เพื่อแข่งขันกับผู้นำอันดับ 2 อย่าง DTAC ซึ่งไม่ชนะประมูลในสองครั้งหลังนี้เลย จึงยังทำให้ DTAC ต้องแบกภาระการจ่าย Revenue sharing ที่แพง ๆ อยู่ และยังมีการคาดการณ์ว่า แต่ละผู้ประกอบการน่าจะมีการหาหุ้นส่วนมาแชร์ผลประโยชน์และช่วยแบ่งเบาภาระด้านเงินทุนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Telecom นี้เป็นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน เป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นธุกิจที่ก่อให้เกิดเงินสดในมือจำนวนมากและรวดเร็ว และระบบ 4G นี้จะยิ่งช่วยต่อยอดธุรกิจออกไปได้เป็นอันมาก  อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ยังไม่นิ่งและยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญตามมาอีกมาก เราคาดว่าการหาพันธมิตร หรือการจับมือกันเพื่อใช้ใบอนุญาต 4G ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะเป็นประเด็นต่อจากนี้ไป

ปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญคือ ราคาน้ำมันโลกที่ยังคงปรับตัวลง ยังคงกดดันหุ้นพลังงานต่อไป และสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์วันหยุดคริสมาสต์ของต่างประเทศ ดังนั้น Volume ในช่วงปลายสัปดาห์น่าจะเบาบางลงไป ดังนั้น เราจึงมอง SET Index สัปดาห์นี้ว่ายังคงกดดันและผันผวนที่กรอบ 1,273-1,296 จุด

สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ คือ THANI ของ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์เชิงพาณิชย์ ซึ่งตลาดตรงนี้ยังมีการแข่งขันน้อย อีกทั้งต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และ THANI ได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงิน จากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ TCAP และ TBANK แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว แต่คาดว่า ปีหน้าจะมีอุปสงค์ด้านยานยนต์เชิงพาณิชย์มากขึ้น จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ

รวมถึงการเปิด AEC ทำให้ต้องการยานยนต์ในเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น และทำให้การขยายตัวของสินเชื่อประเภทนี้สูงขึ้นในปีหน้า น่าจะอยู่ที่ 10-12% คาดประมาณว่า THANI จะมีอัตราการขยายตัวของกำไรแบบทบต้นในช่วงปี 2014-2017 ที่ระดับ 21% ส่วนปีหน้าคาดว่า EPS จะขยายตัวที่ระดับ 17% ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ ให้ราคาเป้าหมาย THANI ที่ 3.60 บาท