PLT วิ่ง 5% หลังเซ็นค้าส่งรายใหญ่ “สิงคโปร์” บุ๊กรายได้ไตรมาส 4

PLT บวกเกือบ 5% หลังเซ็นสัญญาให้เช่าเหมาเรือแบบ Time Charter กับบริษัทค้าส่งปิโตรเคมีภัณฑ์รายใหญ่ในสิงคโปร์ อายุสัญญานาน 15 เดือน นับตั้งแต่ ต.ค.นี้เป็นต้นไป เริ่มรับรู้รายได้ทันทีหนุนผลงานโค้งสุดท้ายปี 66 โตเด่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PLT อยู่ที่ระดับ 1.15 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 4.55% สูงสุดที่ระดับ 1.16 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.11 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.49 ล้านบาท

นายวราวิช ฉิมตะวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PLT เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญาให้เช่าเหมาเรือ “พีลาทัส 65″ แบบระยะเวลา (Time Charter) กับ Apex Energy International Pte. Ltd. ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจการจัดจำหน่ายค้าส่งปิโตรเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ กำหนดระยะเวลาเช่า 15 เดือน (อายุสัญญา 3+12 เดือน) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาทันที

ทั้งนี้ เรือ “พีลาทัส 65″ เดิมชื่อเรือ DL POPPY อายุ14 ปี เป็นเรือเดินสมุทร (Ocean going vessel) ครอบคลุมเส้นทางการขนส่งข้ามมหาสมุทร มีความสามารถในการบรรจุ 1,700 ตัน เพื่อใช้ขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวและสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2566 บริษัทได้นำเงินส่วนหนึ่งจากการระดมทุนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ไปซื้อเรือลำดังกล่าว ด้วยมูลค่า 10.15 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อขยายกองเรือใหม่สำหรับเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าเหลวทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ

สำหรับการให้เช่าเรือบรรทุกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในครั้งนี้ นับเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้บริษัทก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง สามารถขยายฐานลูกค้าและการบริการสู่สากล สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจให้บริการขนส่งก๊าซ LPG ทางเรือและรถบรรทุกของเมืองไทย

โดยก่อนหน้านี้ นายวราวิช ได้ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 850 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 795 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้บริษัทมีรายได้รวม 388 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 29.17 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรก เพราะครึ่งปีหลังเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว โดยเฉพาะไตรมาส 4 จะส่งผลให้มีความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหาร กลุ่มครัวเรือนภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

Back to top button