JMT เด้ง 3% โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 70 บ. ลุ้นกำไรปีนี้ 2.3 พันล้าน โต 33%

JMT ดีด 3% โบรกชี้กำไรสุทธิปี 66 แตะ 2.3 พันล้านบาท โต 33.4% เร่งซื้อหนี้เพิ่มเป็น 1-1.15 หมื่นล้านบาท โดยอิงค่า P/E อยู่ที่ 35 เท่า โดยให้ราคาเป้าหมายปีหน้า อยู่ที่ 70 บาทต่อหุ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 66) ราคาหุ้น บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ล่าสุด ร เวลา 10:22 น. อยู่ที่ระดับ 46.75 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 2.75% สูงสุดที่ระดับ 47.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 46.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56.64 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (19 ก.ย.66) ประเมิน บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน)  หรือ JMT ว่าทางฝ่ายวิจัยเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” โดยมองว่าอุปสรรคภายนอกที่เคยขัดขวางการเติบโตในปี 2565 จะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง ขณะที่สิ่งแวดล้อมในการทาธุรกิจกำลังเปิดทางให้บริษัทจะมีกำไรสุทธิเป็นสถิติใหม่ระหว่างปี 2567-2568 ได้สบายๆ โดยคาดกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 2,329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2567 อยู่ที่ 2,879 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มองว่าตลาดประเมินกำไรต่ำไป 7-8%

ทั้งนี้ปี 2568 มองว่าอุปทานหนี้ พร้อมให้ช้อนซื้อ โดยธปท.เผยหนี้ครัวเรือนไทยไตรมาส 1/2566 ทะลุ 16 ล้านล้านบาท หรือ 90.6% ของGDP ไปแล้ว ซึ่งเกินเกณฑ์ของ BIS ที่ 80% ส่วนหนี้เฝ้าระวัง SML สูงถึง 1.1 ล้านล้านบาท ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชี้ว่าหนี้เสียรวมอาจสูงถึง 9.8 แสนล้านบาท จึงเชื่อว่า โมเมนตัมการลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพจะกลับมาปกติ 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ ซึ่งช่วงครึ่งแรกของปี 2566 ซื้อไปแล้ว 4,126 ล้านบาท คิดเป็น 90.9% ของทั้งปีก่อน และจะเร่งขึ้นเป็น 1.5 หมื่นล้านบาทในปีหน้า ซึ่งบริษัทมีความพร้อมสูงด้วย D/E ต่ำเพียง 0.51 เท่า อีกทั้งประสบการณ์ยาวนาน 20 ปี และ สถิติเก็บหนี้ Cash collection ไตรมาส 2/2566 ยอดเยี่ยมทำสถิติใหม่ 1,561 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

โดยอิงค่า P/E อยู่ที่ 35 เท่า จากส่วนลด 10% จากค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ราคาเหมาะสมปี 2566 จะอยู่ที่ 56.83 บาท แต่ด้วยผลกำไรไตรมาส 2/2566 ที่แข็งแกร่งเป็นสถิติใหม่ 551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.6% จากไตรมาสก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 27.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และคาดในไตรมาส 3/2566 เดินหน้าต่ออีก 575-600 ล้านบาท มองว่าตลาดจะคลายความกังวล มองไปข้างหน้า และเริ่มใช้ราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 70.00 บาทต่อหุ้น

Back to top button