STOWER เด้งแรง 11% ส่งซิกครึ่งหลังแจ่ม ตุนงานประมูล 200 ล้าน ขยายตลาดฟิลิปปินส์

STOWER เด้งแรง 11% ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม ตุนงานประมูล 200 ล้านบาท เล็งขยายตลาดฟิลิปปินส์ เจาะตลาดลูกค้า TOWER CO หนุนรายได้โต


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(19ก.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER ณ เวลา 11:33 น. อยู่ที่ 0.19 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 11.76% สูงสุดที่ 0.19 บาท ต่ำสุดที่ 0.18 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.06 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายชโลธร ลีลามะลิ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบัญชีและการเงิน STOWER กล่าวว่า ภาพรวมครึ่งปีหลังในประเทศน่าจะมีทิศทางที่ดี เนื่องจากมีงานที่ประมูลได้แล้วประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็จะมีการรุกตลาดลูกค้าที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน (TOWER CO) มากขึ้น คาดในช่วงไตรมาส 4/2566 น่าจะเห็นตัวเลขรายได้ในประเทศที่ดีขึ้น ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจากในประเทศกว่า 50% และต่างประเทศกว่า 40% รวมถึงปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการหาวิธีลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ลง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาสถัด ๆ ไป

ทั้งนี้ บริษัทได้เข้าร่วมประมูลเพิ่มขึ้นโดยในไตรมาส 2/2566 ได้คำสั่งซื้อโครงการเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงและโครงการสถานีไฟฟ้าย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมในไตรมาส 3/2566 โดยรวมแล้วมีมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันก็ตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจกลุ่มอื่น เช่น สินค้าอุตสาหกรรม เป็นต้น

ด้านความคืบหน้าการดำเนินโครงการเสาเทเลคอมให้เช่าในประเทศฟิลิปปินส์นั้น ช่วงไตรมาส 2/2566 บริษัท Skytowers Infra Inc. บริษัทย่อยในประเทศฟิลิปปินส์ มีการรับรู้รายได้จากการให้เช่าเสาโทรคมนาคมรวมทั้งสิ้น 37 สถานี คาดว่าจะสามารถส่งมอบสถานีให้เช่าได้เพิ่มเติมอีก 4 สถานี ในไตรมาส 3/2566 และยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 5 สถานี ซึ่งจะพยายามเร่งให้แล้วเสร็จทันภายในปีนี้

ขณะที่บริษัท QROI Network Services Inc. บริษัทย่อยอีกแห่งในประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันมีการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในใหม่ ลดการพึ่งพาลูกค้าเทเลคอมเน็ตเวิร์คที่สัมพันธ์กับการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือบนเสาโทรคมนาคมเพราะได้รับผลกระทบจากการลงทุนของผู้ให้บริการ ทำให้บริษัทหันไปขยายตลาดกลุ่มลูกค้า TOWER CO มากขึ้น รวมถึงมีการนำ AI Technology เข้ามาใช้ในการให้บริการด้านการตรวจสอบสถานีโทรคมนาคมและบำรุงรักษา ปัจจุบันรายได้ส่วนนี้มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ที่สัดส่วนประมาณ 50% และจะเป็นฐานรายได้ใหม่ให้บริษัทต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีโครงการที่บริษัทได้ทำการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อขยายโอกาสการขยายช่องทางธุรกิจใหม่ ๆเพิ่มเติมในประเทศฟิลิปปินส์ ในการออกแบบติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญานมือถือและอินเทอร์เน็ตภายในอาคาร (In-Building Solutions หรือ IBS) ซึ่งปัจจุบันบริษัทเริ่มหารือร่วมกับ Mobile Network Operator ในต่างประเทศ เพื่อทำโครงการทดสอบ (POC) ก่อนขยายตลาดต่อไป ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปสู่การติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยติดตั้งในสถานีโทรคมนาคมที่อยู่ระหว่างการทดลอง 2 แห่ง และรอสรุปผลทดลอง ทั้งที่อยู่อาศัย อาคาร และโรงงาน เนื่องจากมองเห็นโอกาสเติบโตในการเลือกใช้พลังงานทดแทนจากระบบโซลาร์เซลล์เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าที่มีอัตราสูง

Back to top button