บล.ไทยพาณิชย์ มองศก.ปีหน้าโตแกร่งหนุนหุ้นไทยฟื้น ลุ้นแตะ 1,600-1,700 จุด

บล.ไทยพาณิชย์ มองศก.ปีหน้าโตแกร่งหนุนหุ้นไทยฟื้น ลุ้นแตะ 1,600-1,700 จุด


นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า คาดว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 59 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีกว่าปีนี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าดัชนีฯสามารถขึ้นไประดับ 1,600-1,700 จุด แต่หากทุกอย่างเติบโตดีมากก็มีโอกาสขึ้นไปถึงระดับ 1,800 จุด และมองต่ำสุดที่ 1,200 จุด  ขณะที่คาดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS Growth) คาดว่าจะอยู่ที่ 12% หรือ 95 บาทต่อหุ้น บน P/E 15 เท่า จากปีนี้ที่ 74 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 3% จากปีนี้ โดยเป็นการขยายตัวแข็งแกร่งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ  และการลงทุนของภาคเอกชนช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นและดึงดูดนักลงทุนให้กลัไบเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง ตลอดจนการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง 

ตลอดจนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ธ.ค.นี้  นับเป็นโอกาสของธุรกิจไทยที่จะเข้าไปลงทุนเพื่อเข้าไปขยายตลาดผู้บริโภคในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม (CLMV)  โดยชูหุ้น Top Picks สำหรับไตรมาส 1/59 เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการแข็งแกร่ง และมีประเด็นการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเปิด AEC

ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันเชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นราว 10% จากปีนี้ที่ราคาเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากไม่มีการสำรวจแหล่งใหม่ๆ และแหล่งเดิมๆทยอยปิดจากราคาน้ำมันที่อยู่ระดับต่ำทำให้ไม่คุ้มการลงทุน แต่ความต้องการใช้น้ำมันเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังราคาน้ำมันจะทยอยปรับตัวดีขึ้น และหากราคาน้ำมันปรับขึ้นอย่างที่คาด กลุ่มพลังงานก็มีความน่าสนใจ เนื่องจากจะมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน จากปีนี้คาดว่าจะมีผลขาดทุนจากสต็กน้ำมันกว่า 60,000 ล้านบาท

พร้อมประเมิน ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในปี 58 ค่อนข้างอ่อนแอ ถึงปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ได้ปรับตัวลดลงแล้วกว่า 12% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่ำกว่าคาด ความล่าช้าในการใช้จ่ายของภาครัฐ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนและ ผู้บริโภคที่ลดลง อีกทั้งยังถูกซ้ำเติมจากสถานการณ์ในตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงและการอ่อนตัวลงอย่างรุนแรงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์

หุ้น Top Picks สำหรับไตรมาส 1/59 แนะนำหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการแข็งแกร่งเป็นทุนเดิม และมีประเด็นการเติบโตที่เกี่ยวข้องกับการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้านเมื่อมีการเปิด AEC ซึ่งธุรกิจที่น่าจะได้รับประโยชน์ได้แก่ ธุรกิจต่อเติมและปรับปรุงที่อยู่อาศัย ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจบริการทางการเงิน และธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วย AAV-ERW-MAJOR-SCC

ส่วนการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz และ 1,800 MHz ครั้งที่ผ่านมาว่า การประมูลใบอนุญาตมีราคาแพงกว่าที่คาด ส่งผลต่อต้นทุนการประกอบธุรกิจที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามระยะยาวยังถือว่ามีความน่าสนใจ โดยมองว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) น่าสนใจ ระยาวจะได้ผลดีสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาด เพราะมีครบทุกคลื่นความถี่ แม้ว่าในปี 59 อาจจะมีผลขาดทุนแต่เชื่อว่าผลประกอบการจะกลับมามีกำไรได้ในปี 60 แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นให้ชะลอการลงทุนก่อนจนกว่าการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จ

ส่วนบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ถือว่ามีความน่าสนใจรองลงมา แม้ว่าจะไม่สามารถประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ได้ แต่ยังมีคลื่นความถี่อื่นๆอยู่ในมือและมีการเงินที่แข็งแกร่ง แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามการรักษาฐานกลุ่มลูกค้า 2G ที่มีอยู่กว่า 10 ล้านรายว่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด

ขณะที่บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ถือว่ามีความเสี่ยงมากที่สุด เนื่องจากในปี 60 ต้องคืนใบอนุญาตคลื่นความถี่ และต้องพัฒนาระบบอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้มีการตัดค่าเสื่อมเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) เป็นผู้เล่นรายใหม่ที่มีความน่าสนใจ แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามว่าจะมีการขยายตลาดอย่างไร เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาราว 12 เดือน เพื่อที่จะขยายโครงข่าย และวางระบบต่างๆให้แล้วเสร็จ

Back to top button