TQM บวก 4% นิวไฮรอบ 6 เดือน แย้มกำไรครึ่งหลังพุ่ง อานิสงส์ประกันรถ EV พุ่ง
TQM บวก 4% นิวไฮรอบ 6 เดือน แย้มกำไรครึ่งปีหลังพุ่ง อานิสงส์ประกันรถไฟฟ้าพุ่ง มั่นใจดันรายได้ปีนี้เข้าเป้าหมาย 5-10% โบรกแนะซื้อเป้า 45 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(25ก.ย.66) ราคาหุ้นบริษัท บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ล่าสุด ณ เวลา 12.13 น. อยู่ที่ระดับ 34.25 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 3.79% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28.47 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงในรอบ 6 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 35.75 บาท เมื่อวันที่ 10 มี.ค.66
โดยก่อนหน้านี้ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในปีนี้ บริษัทมั่นใจจะกลับมาเติบโตเป็นปกติ โดยเฉพาะการขายสำหรับกลุ่มลูกค้าต่ออายุประกันภัยที่สามารถดำเนินได้ตามปกติแล้ว ขณะเดียวกันด้านสถานะทางการเงินของบริษัทประกันต่าง ๆ มีความมั่นคงขึ้น TQMalpha ยังคงดำเนินกลยุทธ์สร้าง synergy เพื่อเติบโตผ่านกลุ่มธุรกิจประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม
ขณะเดียวกันปีนี้ได้เห็นกระแสการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีความต้องการสูง พร้อมกับแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ามีค่าเบี้ยประกันภัยสูงกว่ารถยนต์แบบธรรมดา รวมถึงค่านายหน้าปรับตัวสูงขึ้นตามยอดเบี้ยประกันด้วยเช่นกัน สำหรับยอดขายประกันอุบัติเหตุและสุขภาพภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด ยังคงได้รับความสนใจต่อเนื่อง สามารถ upsell (การเสนอขายหรือแนะนำสินค้ากับบริการที่มีราคาสูงกว่า) และ cross sell (การเสนอขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการซื้อ) ได้ดี เช่นเดียวกับการเติบโตของประกันบ้าน และประกันนอน-มอเตอร์อื่น ๆ
“เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุด TQM มีแผนนำ 3 บริษัทในเครือ เตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกอบด้วยบริษัทด้านธุรกิจประกันในปี 2567 บริษัทด้านธุรกิจการเงินในปี 2568 และบริษัทด้านธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์มในปี 2569 อย่างไรก็ตามตามกลยุทธ์ของบริษัทในปี 2570 ทาง TQM มีเป้าหมายที่จะสร้างยอดเบี้ยประกันกว่า 50,000 ล้านบาท” ดร.นภัสนันท์ กล่าว
ขณะที่ทางบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ยังคงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น TQM พร้อมกับราคาเป้าหมาย 45 บาท มองผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2565 ที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร และทำให้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายและการบริหาร (SG&A expense) เพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้ ส่วนแนวโน้มกำไรช่วงครึ่งหลังของปี 2566 คาดว่าฟื้นตัวทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ)
ส่วนกำไรปี 2567 เชื่อว่ามีความเสี่ยงทางบวก (upside risk) จากยอดขายประกันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งราคาสูงกว่ารถสันดาปราว 30-40% ปัจจุบันยอดจดทะเบียนรถยนต์ EV ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ 3 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 215% จาก 9.5 พันคัน ในปี 2565 พร้อมกันนี้ราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E ปี 2566 ที่ 18.5 เท่า (-1.45 SD) ของค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดฯ สะท้อนราคาที่ไม่แพง รวมถึงมีอัตราผลตอบแทน (ดิวิเดนด์ยีลด์) ประมาณ 4%
“อุตสาหกรรมรถยนต์ EV ที่กำลังเติบโตจะเป็นผลบวกต่อ TQM ในระยะยาว เนื่องจาก 1.ค่าเบี้ยประกันของรถยนต์ EV ที่สูงกว่ารถยนต์สันดาปราว 30-40% สะท้อนรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น 2.อัตราการทำประกันรถยนต์มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากค่าบำรุงรักษารถยนต์ EV มีราคาสูง หากเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้บริหารคาดเริ่มเห็นยอดขายรถยนต์ EV เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป และมีโอกาสทำให้รายได้เติบโตขึ้นในปี 2567” บล.กรุงศรีฯ ระบุ
ส่วนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล (Easy Lending) มองเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อสะสมในปี 2566 ที่ 3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจาก 1 พันล้านบาท ในปี 2565 ขณะที่ครึ่งแรกของปีนี้เติบโตดีประมาณ 1.9 พันล้านบาท หนุนจากการปล่อยสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ซื้อประกัน ส่วนครึ่งปีหลังของปี คาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากการปล่อยสินเชื่อประเภทอื่น ๆ มากขึ้น เช่น การปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ที่เริ่มทำแล้วตั้งแต่ในเดือน มิ.ย. 2566 รวมถึงจะมีดีลกับพันธมิตรเพื่อปล่อยสินเชื่ออื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต
นอกจากนี้ ยังคงแผนทำธุรกิจแบบลดการถือครองสินทรัพย์ (Asset light model) เพื่อลดต้นทุนคงที่ (fixed cost) จากการขยายสาขาเอง ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ (affiliate partnership) คาดเริ่มทยอยทำในครึ่งหลังของปี 2566 โดยตั้งเป้าหมายขยายจุดบริการ (service point) ประมาณ 7,000-8,000 สาขาในระยะยาว
ขณะเดียวกัน TQM คงเป้าหมายรายได้ปี 2566 เติบโต 5-10% (ฝ่ายวิจัยฯ คาดเติบโต 6.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) หนุนจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยเป็นหลัก ที่ยอดเบี้ยประกันเติบโตเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในทุกกลุ่มสินค้า หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวและมีการจ้างพนักงานขายเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมองครึ่งหลังของปีนี้ คาดรายได้เติบโตเด่นกว่าช่วงครึ่งปีแรกจากฤดูกาลที่ปกติแล้วรอบต่อประกันจะอยู่ในไตรมาส 4/2566