BH ดีด 2% ลุ้นกำไร Q3 เฉียด 2 พันล้าน รับผู้ป่วยไทย-ต่างชาติพุ่ง โบรกชูเป้า 300 บาท
BH ดีด 2% โบรกคาดกำไรไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1,955 ล้านบาท รับอานิสงส์ทั้งคนไข้คนไทย และต่างชาติ จากโรคทั่วไป และโรคไข้หวัดที่ระบาดในช่วงหน้าฝนซึ่งเป็น seasonality แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 300 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ก.ย. 66) บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ล่าสุด ณ เวลา 11:03 น. อยู่ที่ระดับ 269.00 บาท บวก 5.00 บาท หรือ 1.89% สูงสุดที่ระดับ 270.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 262.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 404.89 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 300.00 บาท อิง 67 PER ที่ 31.0 เท่า โดยประเมินว่า BH จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1,955 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน เติบโตจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการกับ BH อย่างต่อเนื่องทั้งคนไข้คนไทย และต่างชาติ จากโรคทั่วไป และโรคไข้หวัดที่ระบาดในช่วงหน้าฝนซึ่งเป็น seasonality จึงทำให้คาดรายได้อยู่ที่ 6,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน, เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน) โดยคาดสัดส่วนต่างชาติอยู่ที่ 66% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ GPM เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50.3% ไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 48.4%, ไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 49.6%) และ SG&A/Revenue ลดลงมาอยู่ที่ 16.1% ไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 17.6%, ไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 16.4%
นอกจากนี้ คงประมาณการกำไรสุทธิปี 66 อยู่ที่ 7,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และในปี 67 อยู่ที่ 7,759 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งแรกปี 66 มีสัดส่วนอยู่ที่ 46% ของประมาณการทั้งปี โดยแนวโน้มการเติบโตในครึ่งหลังปี 66 มีการเติบโตดีกว่าครึ่งแรกปี 66 จากการเข้าสู่ช่วง high season จากฤดูฝน และความต้องการของลูกค้าต่างชาติที่จะเดินทางมารักษาที่ BH ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้รายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยปัจจุบันคนไข้ต่างชาติเดินทางมารักษาที่ BH มากกว่าช่วงก่อนโควิด โดยเฉพาะคนไข้จีน และตะวันออกกลางราคาหุ้น outperform SET เพิ่มขึ้น 3% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจากแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 3/66 จะดีต่อเนื่อง
โดยในปัจจุบัน BH เทรดอยู่ที่ 67 PER ที่ 27.1 เท่า โดยราคาหุ้น BH เคยสูงสุดที่ 250 บาท ในปี 58 ซึ่งมีกำไรสุทธิเพียง 3,436 ล้านบาท และปี 62 (ก่อน COVID) กำไรอยู่ที่ 3,794 ล้านบาทเท่านั้น คาดว่ากำไร BH จะเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังมี upside จากการปรับขึ้นค่ารักษา โดยทุกๆ การปรับขึ้น 2% ของค่ารักษาจะเป็น upside ต่อประมาณการที่เพิ่มขึ้น 5%, จำนวนคนไข้ต่างชาติที่มากกว่าคาด โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย และขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง ทำให้กำไรของ BH เติบโตต่อเนื่อง และมองว่าครึ่งหลังปี 66 จะเติบโตดีจากครึ่งปีแรก จากคนไข้ต่างชาติที่เติบโตดีเกินคาด โดยอาจเป็น upside ต่อประมาณการ