แบงก์ดันดัชนี

ช่วงเช้าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงไปลึกถึง 1,488 จุด หรือลบลงไป 5.88 จุด

ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกและลบสลับกันไป

พอเปิดตลาดภาคบ่ายมาเพียงได้ครึ่งชั่วโมง

ดัชนีดีดขึ้นแรง หรือจากระดับประมาณ 1,487 จุด ขึ้นมาที่ระดับ 1,497-1,499 จุด

ปัจจัยไม่ได้มีอะไรมาก นั่นคือ คณะกรรมการนโยบายการเงินปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายมาแตะระดับ 2.50%

การขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ครั้งนี้

ว่ากันว่า ผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์กันไว้ว่า กนง.น่าจะยังคงดอกเบี้ยเอาไว้ก่อน

หลังจากนั้น อาจจะไปขยับขึ้นในการประชุมกนง.ครั้งถัดไป (29 พ.ย. 66)

พอ กนง.มีมติออกมาแบบนี้

ทำให้เกิดการเข้ามาไล่หุ้นในกลุ่มธนาคารกันสนุกสนาน

เริ่มจากแบงก์กรุงเทพ BBL

แบงก์กสิกรไทย KBANK

แบงก์กรุงไทย KTB

บริษัท เอสซีบีเอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB

รวมถึงแบงก์หทารไทย หรือ TTB ด้วยที่เมื่อวานนี้ขึ้นมาแรงมาก หลังราคาปรับลงไปและเบรกที่แนวรับ ก่อนจะดีดขึ้นทางเทคนิค ผสมกับข่าวดอกเบี้ย

ที่ต้องระวังกลุ่มธนาคาร อย่างที่เคยบอกไป

หุ้นกลุ่มนี้หากย่อให้ซื้อ ปรับขึ้นให้ขาย

แต่จะต้องดูแนวรับ แนวต้านกันดี ๆ

อย่าง BBL ก่อนที่ราคาจะลงมาที่บริเวณ 161-162 บาท ได้ลงมาจากระดับ 170-171 บาท

แนวต้านแรกคือ 164.00 บาท

ซึ่งวานนี้ปิดที่ระดับแนวต้านดังกล่าวพอดี แม้ระหว่างวันจะขึ้นมาได้ที่ 164.50 บาท

วันนี้ (28 ก.ย.) หากราคาเปิดขึ้นมา แล้วเป็นบวก ถือว่าน่าตาม เพราะหลังจากราคาลงไปที่ 162.00 บาท ที่ถึงเป็นจุดเบรก เหมือนกราฟเตรียมดีดกลับ

ยิ่งแนวโน้มไตรมาส 3/66 นักวิเคราะห์มองแทบจะตรงกัน

คือ กำไรจะอยู่ประมณ 1.1-1.20 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 40-50% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน

และหากย้อนดูราคาในอดีต หาก BBL มีกำไรต่อไตรมาสมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวที่บริเวณ 200 บาท บวก/ลบ

ส่วน KBANK ราคาหุ้นมีแนวรับ 122.00 บาท ซึ่งเมื่อ 2-3 วันก่อนราคาลงมาที่บริเวณนี้ แต่ดีดกลับได้

ส่วนวานนี้บวก 1.50 บาท มาปิด 124.50 บาท

ราคาหุ้นมีแนวต้าน 126.00 บาท หากผ่านไปได้ น่าจะกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้น

ขณะที่อีกประมาณ 3 สัปดาห์กลุ่มแบงก์จะประกาศงบการเงินไตรมาส 3/66 จึงน่าจะเป็นช่วงจังหวะการสะสมเพื่อเก็งกำไร

ส่วน TTB ราคาหุ้นมีแนวต้านถัดไปที่ 1.74 บาท และแนวต้านใหญ่ 1.80 บาท

กรุงไทย หรือ KTB กรอบการเคลื่อนไหวจะอยู่ระหว่าง 18.50–19.70 บาท หากเลย 20.00 บาท ราคาหุ้นอาจจะมีอัพไซด์จำกัด จากราคาที่เป็น IAA Consensus ที่ 22.80 บาท (ราคาเป้าหมายต่ำสุด 19.40 บาท และสูงสุด 25.00 บาท)