ฝรั่งขาย 1.55 แสนล้าน
วันนี้ “โมนิก้า” ขอยกคำพูดที่ว่า “คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต” ชีวิตนักลงทุนต้องผกผันเมื่อเจอมรสุมดอกเบี้ยขาขึ้นที่ยังตามหลอกหลอน
วันนี้ “โมนิก้า” ขอยกคำพูดที่ว่า “คนคำนวณไม่สู้ฟ้าลิขิต” ชีวิตนักลงทุนต้องผกผันเมื่อเจอมรสุมดอกเบี้ยขาขึ้นที่ยังตามหลอกหลอน และยังถูกซ้ำเติมเข้าอีกดอกด้วยบาทอ่อนค่า ก่อนจะถูกกระทืบซ้ำจนมิดธรณีด้วยฝรั่งทิ้งหุ้นเดือนเดียว 2.23 หมื่นล้าน (วานนี้ซื้อกลับ 2 พันล้าน) และเมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นปีจะเห็นว่า ฝรั่งทิ้งหุ้นมากถึง 1.55 แสนล้าน และมีแนวโน้มที่ยอดขายจะทะลุเกินระดับ 1.60 แสนล้านนะจะบอกให้
ถามว่าทำไมเดี๊ยนถึงเชื่อเช่นนั้น! คงตอบว่า มีเรื่องไหนที่ทำให้นักลงทุนสบายใจบ้างไหม? ขนาดได้หัวหน้ารัฐบาลที่มาจากฝั่งทุนใหญ่ ยังโดนขายทิ้งแบบไม่ไว้หน้ากันเลยแบบนี้..ใครไม่อาย เดี๊ยนอาย เพราะมันทำให้เห็นสัจธรรมที่ว่า นักลงทุนสถาบันสนใจ “ผลตอบแทน” มากกว่าโฉมหน้า “รัฐบวม” จึงทำให้ทุกคนเห็นเงินไหลออกตลอดเวลา เพราะผลตอบแทนจาก “ตลาดเงิน” ดีกว่า “ตลาดทุน” พะย่ะค่ะ
ด้วยแรงบีบคั้นดังกล่าวทำให้เชื่อว่า ดัชนีน่าจะทรุดตัวลงไปอีกเรื่อย ๆ และการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,497.15 จุด บวกไป 3.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.66 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการชะลอตัวลงในช่วงสั้น ๆ เพราะไทม์ไลน์ของข่าวร้ายยังไม่หมดเพียงแค่นี้ จึงไม่ควรหลงระเริงเมื่อดัชนีดีดตัวขึ้นแรงอีกรอบ เพราะการเด้งขึ้นแรงเที่ยวก่อน ต่อจากนั้นทรุดฮวบจนหลุดแนวรับ 1,500 จุด มันคือบทเรียนที่ดีจ้า!
สำหรับภาพที่ทำให้ “โมนิก้า” จำติดตาจนถึงทุกวันนี้คงหนีไม่พ้นการร่วงหล่นของ KBANK จากระดับ 135 บาท ลงมาที่ฐานเก่าบริเวณ 121 บาทเป็นครั้งที่ 4 ถือเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนตระหนักเป็นประจำว่า ขึ้นเมื่อไหร่..ต้องขายทำกำไร เพราะหุ้นยังไม่สามารถหลุดพ้นจากวงโคจรเดิม จึงไม่มีอาการดีใจเมื่อได้เห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 124.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.75 พันล้านบาทเจ้าค่ะ
ประเด็นนี้ครอบคลุมถึงหุ้น CRC ก็วนเวียนไปมาในกรอบ 38-42 บาทเป็นเวลานานถึง 4 เดือน หรือเม้าท์ให้เห็นภาพก็คือการเคลื่อนตัวแบบ W-Shape “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 38.50 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 924 ล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะของการทำรอบสั้น ๆ เหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากเดี๊ยนไม่สามารถมองอะไรที่เลิศหรูไปกว่านี้ได้จริง ๆ นะจ๊ะ
เช่นเดียวกับในรายของ LH ที่เอาแต่มุดหัวลงลูกเดียวเป็นแรมเดือน กลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่โสภาสำหรับคนที่เข้าไปช้อนหุ้นในช่วงต้นเดือน ขณะเดียวกันจะเห็นว่า หุ้นอสังหาฯ อยู่ในช่วงฟอร์มตกกันเป็นแถว จึงถูกลดค่าตัวกันทั้งกระบิ เดี๊ยนเลยกังวลว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 7.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 530 ล้านบาท อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดของการลงเที่ยวนี้นะออเจ้า
ส่วนรายที่มีของดีอยู่ในตัว และยังเป็นที่นิยมในพวก VI คงต้องมองไปที่หุ้น COCOCO ภายใต้การนำทัพของ “พี่วัฒน์” เพราะด้วยแนวทางการเติบโตเฉลี่ยปีละ 40% มันกลายเป็นเกราะป้องกันแรงขายได้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงไม่คาใจเมื่อเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 9.80 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 5.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 596 ล้านบาท หากไม่เชื่อว่า หุ้นตัวนี้ดีขนาดไหน? ลองไปถามเสี่ยปู่แล้วกัน..อิอิอิ
ประเด็นข้างต้นช่างตรงกันข้ามกับหุ้น NRF เสียเหลือเกิน เพราะรายนี้กำลังเผชิญวิบากกรรมหลายอย่าง ราคาหุ้นถึง “ทรุดแล้ว ทรุดอีก” จนวานนี้โดนทุบลงไปถึง 4.40 บาท ก่อนจะมีการงัดกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.88 บาท เหลือลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 195 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่ทำให้นักเล่นไม่สบายใจอย่างแรง เพราะมันต้องมีซัมติงบางอย่างแน่ ๆ ไม่เช่นนั้นราคาหุ้นจะทรุดโทรมได้ขนาดนี้เหรอ?
สำหรับหุ้นที่ยังทำผลงานได้ดี แต่ราคาหุ้นไม่ค่อยตอบรับ “โมนิก้า” ขอมองไปยังหุ้น DITTO ที่ช่วงหลังเกิดอาการเข่าทรุดบ่อยมาก จนราคาหุ้นเอียงกระเท่เร่เป็นแรมเดือน และเรื่องนี้ก็ดูได้จากราคาหุ้นก่อนหน้านี้ยืนแถว 35 บาท แต่วันนี้กลับลงมายืนปิดที่ระดับ 27.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้กับโลว์เดิมที่บริเวณ 25 บาทแบบนี้..เสียวไส้เหลือเกินคุณแม๊!