“IFA” ชี้ TKC ดีลซื้อหุ้น AIT-เพิ่มทุน ราคาเหมาะสม แนะผู้ถือหุ้นอนุมัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี บริษัท เทิร์นคีย์คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เข้าซื้อหุ้น บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลย จำกัด (มหาชน) หรือ AIT รวมทั้งหมด 357.13 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.95% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำแล้วทั้งหมดของ AIT ในราคาหุ้นละ 6.80 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวม 2,428.46 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทจะทำรายการซื้อจาก 1. บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY จำนวน 237.60 ล้านหุ้นหุ้น คิดเป็น 16.60% ราคารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,615.68 ล้านบาท โดยชำระด้วยการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ให้แก่ SABUY เป็นจำนวน 64,627,200 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 25.00 บาท แทนการชำระด้วยเงินสด

2. 2. นางสาวศศิเนตร พหลโยธิน จำนวน 8,237,515 หุ้น คิดเป็น 58% ในราคาซื้อขาย 56.01 ล้านบาท ชำระด้วยเงินสด 3. นายศิณะ อุ่นทรพันธุ์ จำนวน 34,024,631 หุ้น คิดเป็น 2.38% ในราคาซื้อขาย 231.37 ล้านบาท ชำระด้วยเงินสด 4. นางสาวศิณานางค์ อุ่นทรพันธุ์ จำนวน 32,151,840 หุ้น คิดเป็น 2.25% ในราคาซื้อขาย 218.63 ล้านบาท ชำระด้วยเงินสด 5. นางเนตรนภิส อุ่นทรพันธุ์ จำนวน 7,762,485 หุ้น คิดเป็น 0.54% ในราคาซื้อขาย 52.78 ล้านบาท ชำระด้วยเงินสด และ6. นายชูเกียรติ รุจนพรพจี จำนวน 37,350,000 หุ้น คิดเป็น 2.61% ในราคาซื้อขาย 253.98 ล้านบาท ชำระด้วยเงินสด

โดยบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนในการชำระค่าหุ้น AIT ด้วยเงินทุนหมุนเวียน 378,460,002.80 บาท, เงินที่ได้รับจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PP จำนวน 434.32 ล้านบาท และชำระค่าตอบแทนให้แก่ SABUY ด้วยหุ้นเพิ่มทุน 64.63 ล้านหุ้น ในรูปแบบการเสนอขาย PP แทนการชำระด้วยเงินสด

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขายหุ้นละ 25 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 2,500 ล้านบาท เพื่อใช้ชำระเป็นค่าหุ้น AIT ส่วนหนึ่ง ซึ่งคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้ว แทนการชำระด้วยเงินสดให้กับ SABUY ร่วมกับการชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด 812.78 ล้านบาท ให้กับผู้ขายทั้งหมดที่เหลือ

บริษัทจะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขาย PP ดังนี้ 1.จำนวนไม่เกิน 9,254,700 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 231,367,500 บาท ขายให้แก่นายศิณะ อุ่นทรพันธุ์, 2.จำนวนไม่เกิน 8,745,300 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 218,632,500 บาท ขายให้แก่นางสาวศิณานางค์ อุ่นทรพันธุ์, 3.จำนวนไม่เกิน 64,627,200 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 1,615,680,000 บาท ให้แก่ SABUY แทนการชำระด้วยเงินสด, 4.จำนวนไม่เกิน 10,000,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 250,000,000 บาท ขายให้แก่บริษัท บีซีเอช เวนเจอร์ส จำกัด และ 5.จำนวนไม่เกิน 7,372,800 หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 184,320,000 บาท ขายให้แก่นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์

ล่าสุด รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) บริษัท สีลม แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด โดยเห็นว่าการประเมินมูลค่ายุติธรรมของหุ้นสามัญของ AIT ด้วยวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดเป็นวิธีที่เหมาะสมในการประเมินมูลค่ายุติธรรมของหุ้นสามัญของ AIT ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นวิธีที่สะท้อนผลการดำเนินงาน และคำนึงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดในอนาคต โดยมูลค่ายุติธรรมของหุ้นสามัญของ AIT ที่คำนวณได้จากวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดนั้นมีค่าระหว่าง 10,155.55 – 12,581.22 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าหุ้นเท่ากับ 7.09 – 8.79 บาทต่อหุ้น และมีมูลค่ายุติธรรมกรณีฐานที่ 11,214.20 ล้านบาทและมูลค่าหุ้นเท่ากับ 7.83 บาทต่อหุ้น จึงสามารถวิเคราะห์ได้ว่าราคาซื้อขายที่ 6.80 บาท ต่ำกว่าราคาฐาน และมีความเหมาะสมทางด้านราคา

ขณะเดียวกันมีความเห็นว่าการประเมินมูลค่ายุติธรรมของหุ้นสามัญของ TKC ด้วยวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดเป็นวิธีที่เหมาะสมในการประเมินมูลค่ายุติธรรมของหุ้นสามัญของ TKC ในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นวิธีที่สะท้อนผลการดำเนินงาน และคำนึงถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดในอนาคต โดยมูลค่ายุติธรรมของหุ้นสามัญของTKC ที่คำนวณได้จากวิธีมูลค่าปัจจุบันสุทธิของกระแสเงินสดนั้นมีค่าระหว่าง 7,806.40 – 6,351.84 ล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าหุ้นเท่ากับ 21.17 – 26.02 บาทต่อหุ้น และมีมูลค่ายุติธรรมกรณีฐานที่ 6,988.68 ล้านบาทและมูลค่าหุ้นเท่ากับ 23.30 บาทต่อหุ้น จึงสามารถวิเคราะห์ได้ว่าราคาหุ้นจัดสรรเพิ่มทุนซื้อขายที่ 25.00 บาท สูงกว่าราคาฐาน และมีความเหมาะสมทางด้านราคา

ทั้งนี้จากเหตุผลข้างต้น ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ(IFA) เห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้นสามัญของ AIT และธุรกรรมการจัดสรรหุ้น TKC ในวงจำกัด ในครั้งนี้ มีความสมเหตุสมผล จึงเห็นว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ควรอนุมัติในการเข้าทำรายการในครั้งนี้