พาราสาวะถี

เข้าตำราอย่างที่บอกไว้เป๊ะหลังได้บทสรุปในเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากกรณีตำรวจบุกค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก”


เข้าตำราอย่างที่บอกไว้เป๊ะหลังได้บทสรุปในเก้าอี้ ผบ.ตร.คนใหม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากกรณีตำรวจบุกค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะไม่ร้อนแรงและหาหนทางทำให้ทุกอย่างค่อยซาไปกับวันเวลาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เค้าลางเช่นนั้นมันมีให้เห็นแล้วเมื่อบิ๊กโจ๊กดอดพบ “บิ๊กต่อ” พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ในฐานะว่าที่ ผบ.ตร. พูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน แสดงความยินดีที่ได้รับตำแหน่ง

ภาพออกมาแบบนี้ถ้าเป็นละครน้ำเน่าก็บอกว่าจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง คดีความต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็ว่ากันไปตามกระบวนการ เห็นตัวละครตามสคริปต์การสืบสวนสอบสวน ท่วงทำนองที่แสดงออกของแต่ละคน พอจะคาดเดาได้ว่าตอนอวสานจะจบลงแบบใด ถ้าหัวขบวนยอมแต่โดยดี ด้วยเหตุผลของการเข้าจับมือยินดีกับคนที่สมหวังตามมาด้วยประโยคที่ว่า พร้อมปรึกษาหารือกัน พัฒนาและขับเคลื่อนการทำงานของตำรวจ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธามากขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องเดาบทสรุปของคดีที่ถูกจุดพลุขึ้นมา

ไม่ใช่การเสียหน้า หรือเป็นการทิ้งไว้กลางทาง เพียงแต่งานนี้ก็จะมีผู้รับบาปกลายเป็นตัวละครที่ต้องเป็นผู้เสียสละ หรือสุดท้ายอาจจะไม่พบหลักฐานอะไรสำคัญ จนนำไปสู่การเอาผิดขบวนการเว็บพนันออนไลน์ที่มีข้อกล่าวหาใหญ่โตกันเลยก็ได้ เมื่อหัวใจสำคัญของการดำเนินคดีเรื่องนี้อยู่ที่เงินจำนวนมหาศาล หากสอบเส้นทางแล้วพบรายชื่อที่เจ้าของเป็นพวกบัญชีม้า ถามว่าจะเอาผิดคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของของตัวการใหญ่ได้อย่างไร รอดูกันต่อไป

ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากที่เป็นข่าว พรรคก้าวไกลมีมติขับ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากพรรคด้วยเหตุผลไม่ยอมทิ้งเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ซึ่งขัดกับแนวทางของพรรคในการจะเดินหน้าเป็นฝ่ายค้านเต็มตัวด้วยการผลักดันให้ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรครับเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เหตุผลของการขับนั้นไม่น่าจะมีน้ำหนักพอ เข้าข่ายสมคบคิด ทำนิติกรรมอำพรางกันเสียมากกว่าคือ ต้องการเก็บเก้าอี้สำคัญในสภาไว้ทั้งสองตำแหน่ง

ภายใต้เกมการเมืองแบบนี้ภาษาเซียนพนันอาจเรียกได้ว่าวัดวา เมื่อเพื่อไทยถูกกล่าวหาตระบัดสัตย์พลิกขั้วทิ้งเพื่อนเพื่อไปจับมือพรรคขั้วอำนาจเก่าจัดตั้งรัฐบาล ก้าวไกลที่ชนะเลือกตั้งแล้วไม่ได้กุมอำนาจฝ่ายบริหารก็ขอเล่นเกมการเมืองแบบน้ำเน่าเอากันแบบนี้ ใครจะว่ายังไงก็ช่าง คงไม่มีคำถามจากฝ่ายรัฐบาลหรือพรรคแกนนำอย่างเพื่อไทย แต่ฝ่ายกองเชียร์คงต้องคิดกันหนัก ไหนว่าจะทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ยึดติดต่อหัวโขนใด ๆ ตัดสินใจแบบนี้ไม่ผิดกติกา แต่สง่างาม มีศักดิ์ศรีหรือไม่ เป็นเครื่องหมายคำถามที่ต้องไปหาคำตอบกันเอาเอง จากก่อนหน้าเคยกล่าวหาเพื่อไทยการละคร นี่ก็อาจเข้าข่ายก้าวไกลการละครเช่นกัน

ก้าวไกลเลือกที่จะจบปัญหาแบบได้สองเก้าอี้ตามต้องการ แต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกลับสั่นคลอน เมื่อเกิดการปล่อยข่าว วันมูหะมัดนอร์ มะทา จะลาออก ไม่ต้องบอกคนส่วนใหญ่ก็พอจะคาดเดาได้ว่ามาจากแหล่งไหน ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้เมื่อมีการบริหารจัดการตำแหน่งในฝ่ายบริหารเสร็จสรรพเรียบร้อย ทุกอย่างลงตัว ผู้ที่พลาดหวังจากเก้าอี้ทางฟากนั้น ก็หันหัวเรือเพื่อที่จะขอมีตำแหน่งแห่งหนในฝ่ายนิติบัญญัติ ด้วยข้ออ้างความเป็นพรรคการเมืองใหญ่ พรรคแกนนำรัฐบาล

เพียงแต่ว่าขบวนการปล่อยข่าวที่ออกมานั้น ไม่ได้ทำให้คนที่ถูกเรียกว่าผู้จัดการรัฐบาล หรือบรรดามือประสานของพรรคเพื่อไทยหวั่นไหว ต้องทำตามความอยากของลูกพรรค เนื่องจากการดึงเอาวันนอร์มานั่งเป็นประธานสภาฯ นั้น ถือเป็นเดิมพันทางการเมืองที่ช่วยเซฟตัวเองในสถานการณ์ที่ถูกมองว่ากดดันก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำตั้งรัฐบาล หลังเลือกตั้งหมาด ๆ จึงต้องผ่าทางตันด้วยวิธีนี้ แม้กระทั่งคนของก้าวไกลเองยังพูดไม่ออกในเวลานั้น

แค่วันเวลาผ่านไปไม่เท่าไหร่ จะใช้วิธีการเสร็จศึกฆ่าขุนพลคงไม่ใช่วิสัยของกุนซือผู้วางแผนการทางการเมืองให้กับพรรคนายใหญ่ ดังนั้น ข่าวที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้สร้างความระคายเคืองให้กับวันนอร์แม้แต่น้อย ปัญหามันจึงวกกลับไปที่กระบวนการจัดระเบียบภายในพรรคแกนนำรัฐบาลเอง เมื่อขุนพลทั้งหลายได้เก้าอี้เป็นที่พอใจแล้ว ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องไปตกลง ทำความเข้าใจกับเครือข่ายลิ่วล้อในกลุ่มก๊วนของตัวเอง อย่าได้ออกมาร้องแรกแหกกระเชอให้เกิดความระส่ำระสายในรัฐบาล

อย่างที่เห็นกัน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อต้องการที่จะให้ผลงานของรัฐบาลปรากฏสู่สายตาประชาชนโดยเร็ว มีเดิมพันระยะสั้นที่คนส่วนใหญ่จะต้องสัมผัสจับต้องได้คือ 3 เดือน จึงทำให้พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะเพื่อไทยไม่มีสิทธิ์จะมาคิดเล็กคิดน้อยหรือเล่นเกมการเมืองกันให้เสียเวลา ต้องเดินหน้าทำงาน ทำงาน และทำงานเท่านั้น เพราะด้านความมั่นคงภายในพรรค การวางตัว แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่บวกกับการได้เป็นแกนนำรัฐบาล คือการการันตีว่านักเลือกตั้งทุกคนไม่ต้องดิ้นรน ปากกัดตีนถีบเหมือนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ชะตากรรมของ ทักษิณ ชินวัตร หลังจากกลับมารับโทษยอมติดคุกแต่ไม่ได้นอนในตะราง แนวโน้มก็คงจะมีการยื่นขอพักโทษ ด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ ไม่เกินกุมภาพันธ์ปีหน้าก็คงจะได้กลับไปอยู่บ้านดูแลลูกเลี้ยงหลานสมใจอยาก นั่นหมายความว่า เงื่อนไขที่ได้เจรจากันไว้ก่อนการพลิกขั้วได้บรรลุตามที่ตกลงกันไว้ทั้งหมดแล้ว จึงไม่มีเหตุอันใดที่เพื่อไทยจะต้องมาพะว้าพะวัง ต้องเร่งสร้างผลงานคู่ขนานกับการกู้ภาพลักษณ์และฟื้นคืนความเชื่อนิยมของพรรคให้กลับมาโดยเร็ว

ยิ่งท่าทีทางการเมืองของก้าวไกลเป็นไปในลักษณะนี้ ถือเป็นโอกาสดีในการที่เพื่อไทยจะได้แสดงศักยภาพในการบริหารงาน หากทำให้เศรษฐกิจพลิกฟื้น คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นกว่า 9 ปีที่ผ่านมา ที่ว่าเทเดิมพันหมดหน้าตัก ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหมดตูด รับรองได้คืนมาอาจจะมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเสียด้วยซ้ำ ยิ่งการกอดสองเก้าอี้ของก้าวไกลเพื่อหวังโชว์ผลงานในฝ่ายนิติบัญญัติ แล้วทำไม่ได้ตามเป้า แลนด์สไลด์ที่เพื่อไทยเคยวาดหวังไว้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยที่ก้าวไกลก็จะเป็นเหมือนเพื่อไทยสมัยนี้หรืออาจจะแย่กว่านั้นเสียด้วยซ้ำไป

Back to top button