BTS จ่อออกหุ้นกู้ 4 ชุด ดอกเบี้ยสูงสุด 4.95% ขายรายย่อย 30 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ เรทติ้งระดับ A-
BTS เตรียมออกขายหุ้นกู้ 4 ชุด ดอกเบี้ยระหว่าง 3.60-4.95% ต่อปี คาดเสนอขายผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-1 พ.ย. 66 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่ง ฟากทริสเรทติ้งจัดความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- แนวโน้ม “คงที่”
นางสาวชวดี รุ่งเรือง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.60-3.90% ต่อปี, รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.20-4.50% ต่อปี, รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.60-4.90% ต่อปี และรุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.75-4.95% ต่อปี ซึ่งมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยจะประกาศผลตอบแทนที่แน่นอนให้ทราบในภายหลัง
สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าว จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป โดยคาดว่าจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 30 ต.ค. – 1 พ.ย. 66 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 6 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- เช่นเดียวกับอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ โดยมีแนวโน้ม Stable หรือ คงที่ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 โดยทริสเรทติ้ง ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ จากการมีรายได้ค่าบริการที่สม่ำเสมอจากการให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (รายได้จากการให้บริการ O&M) ตลอดจนการมีกระแสเงินสดรับจำนวนมากจากการลงทุนในสัดส่วน 33.33% ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTSGIF) และสถานะที่มั่นคงในธุรกิจสื่อโฆษณาของบริษัทฯ
ทั้งนี้ จากแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือ คงที่ นั้น ทริสเรทติ้ง ให้เหตุผลว่า สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการ O&M และการฟื้นตัวของธุรกิจสื่อโฆษณา นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งที่กรุงเทพมหานครจะจ่ายคืนหนี้ที่ค้างอยู่ให้แก่บริษัทในอนาคตอันใกล้
ขณะที่ปัจจุบัน บีทีเอส กรุ๊ปฯ ดำเนินธุรกิจหลัก ประกอบด้วย 1. ธุรกิจ MOVE ซึ่งเป็นผู้ให้บริการการคมนาคมแบบ door-to-door แก่ผู้โดยสารด้วยรูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางราง ทางถนน ทางน้ำหรือทางอากาศ และเป็นผู้บุกเบิกรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี 2. ธุรกิจ MIX หรือผู้ให้บริการทางการตลาดในรูปแบบ Offline-to-Online โซลูชั่นส์ ที่ได้นำการใช้ Smart DATA ในการเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกว่า 40 ล้านรายการจากแพลตฟอร์มธุรกิจสื่อโฆษณา (Advertising) ธุรกิจบริการด้านดิจิทัล (Digital Services) ธุรกิจการจัดจำหน่าย (Distribution) และกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดบริการด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในทุก ๆ จุดของการเดินทางเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น และ 3.ธุรกิจ MATCH ที่เป็นการแสวงหาโอกาสและความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการแบ่งปันข้อมูลภายใต้แพลตฟอร์มของบริษัทฯ MOVE และ MIX ให้แก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ
“ณ วันนี้ บริษัทฯ เป็นมากกว่าบริษัทที่ให้บริการด้านระบบขนส่งมวลชน (Beyond Transportation Company) ภายใต้กลยุทธ์ 3M ได้แก่ MOVE, MIX และ MATCH ทำให้สามารถขยายไปสู่ธุรกิจที่มีความหลากหลาย มีศักยภาพในการเติบโต สอดรับกับไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตของผู้คนในยุคดิจิทัล ซึ่งมั่นใจว่า การดำเนินธุรกิจด้วยรูปแบบดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และจะช่วยยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต ซึ่งเชื่อว่า ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้จะทำให้ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปให้ความสนใจและมั่นใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น” นางสาวชวดี รุ่งเรือง กล่าว
อีกทั้ง บีทีเอส กรุ๊ปฯ ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน และได้รับการประกาศให้เป็นบริษัทด้านธุรกิจคมนาคมที่มีความยั่งยืนเป็นอันดับ 1 ของโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจาก S&P Global ถือเป็นบริษัทในกลุ่มผู้นำ 1% แรกของกลุ่มอุตสาหกรรมคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ที่ได้รับการประกาศในรายงาน S&P Global Sustainability Yearbook ประจำปี 66 ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับสากล และสะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กรอบการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน
โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บีทีเอส กรุ๊ปฯ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท