BGRIM เปิดเส้นทางสู่ความสำเร็จ บี.กริม 145 ปี

BGRIM ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เส้นทางสู่ความสำเร็จ บี.กริม 145 ปี แก่นักบริหารภาครัฐ-เอกชน สถาบันวิทยาการธุรกิจและอุตสาหกรรม ชูเป้าเป็นองค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 93


ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ให้เกียรติเป็นวิทยากร ในหัวข้อ เส้นทางสู่ความสำเร็จ BGRIM 145 ปี (B.Grimm 145th Anniversary) โดยร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ข้อคิด และปัจจัยความสำเร็จตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจของ BGRIM ในประเทศไทย แก่ผู้บริหารองค์กรทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรม รุ่นที่ 8 ภายใต้หลักสูตร “นักบริหารระดับสูงด้านการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน” สถาบันวิทยาการธุรกิจและอุตสาหกรรม (วธอ.) ณ โรงแรม อโนมา แกรนด์ กรุงเทพ

ดร.ฮาราลด์ กล่าวว่า ตลอดเวลากว่า 145 ปี BGRIM ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นับจากจุดเริ่มต้นในการนำยาสมัยใหม่ตำรับยุโรปมาสู่ประเทศไทย พร้อมดำเนินการด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อาทิ การขุดคลองชลประทานรังสิตเป็นระยะทาง 1.5 พันกิโลเมตร ตลอดจนกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมและการดำเนินธุรกิจการค้าอื่นๆ รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตไฟฟ้าซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 38 ด้วยความร่วมมือระหว่าง BGRIM กับ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA มาถึงปัจจุบัน

โดย BGRIM ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย โดยมีโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 61 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3,830 เมกะวัตต์ (MW) มุ่งขยายการลงทุนสู่การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ารวมกำลังการผลิตตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 1 หมื่นเมกะวัตต์ ภายในปี 73 พร้อมยกระดับสู่บริษัทผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ตั้งเป้าก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี 93

ทั้งนี้ หัวใจความสำเร็จซึ่งถือเป็นปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ BGRIM ตลอด 145 ปีที่ผ่านมา คือ การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างความศิวิไลซ์ ภายใต้ความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยมุ่งสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและสังคม พร้อมยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการดำรงไว้ซึ่งหลัก ธรรมาภิบาล เพื่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ซึ่งยังคงเป็นทิศทางที่บริษัทมุ่งไปหลังจากนี้

สำหรับ วธอ. จัดตั้งขึ้นโดย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาการประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรม มีเป้าหมายเสริมสร้างศักยภาพ องค์ความรู้ต่างๆ ให้แก่ผู้บริหารองค์กรทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้ในศาสตร์หลากหลายแขนงซึ่งสามารถสนับสนุนการพัฒนาและการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

พร้อมทั้งมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มีหลักการบริหารและจัดการแบบใหม่โดยคำนึงถึงสภาวการณ์ในอนาคต โดยการจัดทำหลักสูตร “นักบริหารระดับสูงด้านการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน” รวมถึงหลักสูตรระดับสูงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในทุกด้าน และสร้างเครือข่ายบุคลากรด้านการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุนของประเทศ เพื่อเป็นหลักที่สำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป

Back to top button