หาจังหวะซื้อหุ้นแบงก์

หุ้นกลุ่มธนาคารแจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2566 กันครบแล้ว

แบงก์ 10 แห่งมีกำไรรวมกันกว่า 5.94 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 10.51% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน

ส่งผลให้ช่วง 9 เดือนแรก ทั้งกลุ่มแบงก์มีกำไรรวมกัน 1.81 แสนล้านบาท เพิ่ม 14% จาก 9 เดือนแรกของปี 2565

หุ้นแบงก์ส่วนใหญ่ ทำกำไรได้ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

หรือ บวก/ลบจากการประมาณการเล็กน้อย แทบไม่ได้มีนัยสำคัญ

ยกเว้น KKP ที่มีกำไรปรับลงถึง 38%

ส่งผลราคาหุ้น KKP หล่นจากช่วงระหว่าง 53.00–55.00 บาท ลงมาปิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาระดับ 51.50 บาท ต่ำสุดในรอบ 2 ปี 2 เดือน

ทว่า ราคาหุ้นยังไม่หลุดระดับ 50 บาท ที่เป็นแนวรับสำคัญ

ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ไม่ได้ปรับลงตามภาวะตลาดมากนัก

ปัจจัยมาจากเรื่อง ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้ตัวเลข NIM สูงขึ้น

ทำให้กำไรไตรมาส 3 ต่างออกเป็นไปตามที่คาดการณ์

แต่หลังจากมีการแจ้งผลประกอบการกันครบ

อาจมีความเป็นไปได้ว่า ในช่วงสั้น น่าจะเกิดการขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคารออกมาบ้าง

นักวิเคราะห์มองว่า หากราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ย่อตัว

น่าจะเป็นจังหวะ “สะสม”

เหตุผลจากดอกเบี้ยยังไม่หมดรอบขาขึ้น

ทำให้ส่วนต่างจากรายได้ดอกเบี้ยจะมากขึ้นไปอีก และส่งผลต่อกำไรไตรมาส 4/2566 มีแนวโน้มที่จะยังมากขึ้น

แบงก์กรุงเทพ หรือ BBL เป็นหุ้นที่เด่นในกลุ่มธนาคารในมุมมองของนักวิเคราะห์หลายสำนัก

จากคุณภาพสินทรัพยบ์ที่แกร่งสุดในกลุ่มฯ

BBL มี Coverage ratio สูงถึง 287%

พอร์ตสินเชื่อส่วนใหญ่ชอง BBL เป็นกลุ่มรายใหญ่ ส่วนรายย่อยมีไม่มากนัก ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน

ส่วน BIS ratio ของ BBL อยู่ที่ 19.1%

ราคาหุ้น BBL ขึ้นไปเคลื่อนไหวเฉลี่ย 172 บาท บวก/ลบ

ก่อนจะลงมาวิ่งอยู่ในกรอบ 167-169 บาท

ล่าสุด วันศุกร์ที่ผ่านมา ปิด 167 บาท

BBL มีแนวรับสำคัญ 165 บาท ส่วนแนวต้าน 170 บาท

แบงก์กสิกรไทย หรือ KBANK กำไรไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ออกมาดีกว่าตลาดคาดไว้เล็กน้อย หรือ 1.121 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 7% ทำให้ราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ปิดบวกมาที่ 129 บาท

แนวต้านของ KBANK อยู่ที่ 132 บาท

หากวันนี้ราคาย่อตัว อาจเป็นจังหวะของการสะสม และมีแนวรับที่ 126.50 บาท

แบงก์กรุงไทย หรือ KTB สามารถทำกำไรเกินระดับหมื่นล้านได้เป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน

และทำให้ราคาหุ้นไม่กลับไปหลุด 19.00 บาทอีกครั้ง

แต่แนวต้านของกรุงไทยยังอยู่ที่ 19.60 บาท

เหมาะต่อการเล่นในกรอบ 18.50-19.80 บาท

ส่วนราคาหุ้น อาจจะมีโอกาสค่อนข้างยากที่จะข้าม 20 บาทขึ้นมาได้อีกครั้งในช่วงเวลาอันใกล้
เอสซีบีเอกซ์ กำไรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไม่มากนัก ทำให้ราคาหุ้นย่อตัวลงมาต่ำกว่า 100 บาท แต่ไม่หลุด 99.25 บาท ที่เป็นแนวรับ

ก่อนจะมาปิดที่ 99.75 บาท

สำหรับ SCB ราคาหุ้นที่ย่อตัว เป็นจังหวะสะสม จากนโยบายจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสูง

ทำให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล สูงสุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่ 4 แห่ง

อีกหุ้นแบงก์ที่น่าสนใจคือ ทหารไทยธนชาต TTB ที่ราคาหุ้นวิ่งสวนภาพรวมตลาด

และยืนแข็งบริเวณ 1.73-1.74 บาท โดย 1.74 บาท คือแนวต้าน

แนวรับของ TTB คือ 1.71-1.70 บาท

แต่หากราคาย่อตัวต่ำกว่า 1.70 บาท ถือว่าเป็นโอกาสซื้อ