พาราสาวะถี

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยังคงติดหล่ม คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นยังไม่สามารถนัดประชุมเพื่อเคาะทิศทางการดำเนินการได้


นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยังคงติดหล่ม คณะกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้นยังไม่สามารถนัดประชุมเพื่อเคาะทิศทางการดำเนินการได้ ล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์นักข่าว เมื่อมีเสียงทักท้วงก็ต้องปรับแต่งให้เกิดความเหมาะสม แต่ประเด็นที่ว่าคนรวยไม่สมควรได้ คำถามที่ย้อนกลับมาจากนายกรัฐมนตรีก็คือ “ใครจะบอกว่าใครคือคนรวย และคนรวยคือใคร” เรื่องนี้ตนรับฟังอยู่แล้ว กำลังจะหาคำจำกัดความที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คำว่าคนรวยคืออะไร และน้อมรับคำแนะนำของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่ว่าควรที่จะเจาะจงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่เศรษฐายืนยันต่อการเดินหน้านโยบายนี้ก็คือ ต้องจ่ายเงินงวดเดียวไม่แบ่งจ่ายตามที่มีการเสนอ เนื่องจากเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินใหญ่ จะได้ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง ขณะเดียวกัน กรณีที่มีคนไปร้ององค์กรอิสระให้ตรวจสอบโครงการนี้ เศรษฐาบอกว่าไม่หวั่นไหว พร้อมที่จะไปชี้แจง เพราะต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ เช่นเดียวกันกับท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกมองว่ากำลังลอยแพเพื่อไทยในเรื่องนี้ ซึ่งท่านผู้นำย้ำว่าพรรคร่วมทั้งหมดสนับสนุนเป็นปกติ

ทั้งนี้ ประเด็นที่เศรษฐาย้ำถึงความจำเป็นในการที่จะต้องเร่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก็คือ 10 ปีที่ผ่านมาจีดีพีของประเทศไทยเติบโตเฉลี่ย 1.8% หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นจาก 76% ไปเป็น 91% สูงสุดติดท็อปเท็นของโลก ดังนั้น ไม่ว่าจะมีเสียงทักท้วงอย่างไร การยื่นให้มีการตรวจสอบอย่างไร ในฐานะผู้นำรัฐบาลต้องเดินสายชี้แจง และต้องรับฟังข้อท้วงติง พร้อมกับการยืนยันว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องมีแผนสองในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะรัฐบาลมีแผนเป็นสิบ ๆ แผน

ต้องติดตามดูกันว่านโยบายหลักของเพื่อไทยเรื่องนี้จะเจอทางตัน หรือผ่าทางตันได้หรือไม่ แต่แนวโน้มที่จะเริ่มเติมเงินเข้ากระเป๋าประชาชนได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีหน้านั้นน่าจะเลื่อนออกไป ส่วนจะนานขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการสางปัญหา ข้อติดขัด เสียงทักท้วงที่กำลังเผชิญอยู่เวลานี้ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ผู้ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการของรัฐบาล พร้อมที่จะสนับสนุนและปรับแก้ไปด้วยกันหรือไม่ เมื่อโจทย์ใหญ่ของเศรษฐาคือให้ทุกอย่างตกผลึก สังคมไม่สับสน แต่หากยังมีคนค้านแบบไม่ลดราวาศอกก็ยากที่จะเดินต่อกันได้

ประเด็นดิจิทัลวอลเล็ตเป็นภาพใหญ่ นโยบายสำคัญที่หากทำสำเร็จมันจะเป็นเหมือนการติดปีกของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น จึงมีหลายฝ่ายร่วมกันรุมสหบาทา ผู้ที่หวังดีอย่างแท้จริงก็จะเป็นการนำเสนอความคิดเห็นพร้อมทางออก ส่วนพวกที่มีวาระซ่อนเร้นก็จ้องที่จะล้มโครงการเพียงอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับทีมกุนซือ มันสมองทั้งหลายของพรรคนายใหญ่จะแก้เกมกันได้ขนาดไหน ขณะที่ผู้บัญชาการตัวจริงเมื่อเดินทางกลับประเทศมาแล้ว ไม่สามารถแอ็กชั่นและชี้นำได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนเดิม

ท่วงทำนองของรัฐบาลโดยเฉพาะเศรษฐาที่กำลังเริ่มเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองจากฝ่ายตรงข้ามเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ สวนทางกับภายในพรรคเพื่อไทยที่ดูเหมือนว่าจะคึกคักเป็นอย่างยิ่งกับการที่จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร มาแน่ มันเป็นการสร้างความกระชุ่มกระชวยให้กับบรรดานักเลือกตั้งของพรรค ไม่ได้หมายความว่ามาแล้วจะก้าวกระโดดไปช่วงชิงเก้าอี้นายกฯ จากเศรษฐา แต่มันหมายถึงการวางแผนทางการเมืองไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า

บทบาทที่ถูกจัดวางก่อนจะมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคของอุ๊งอิ๊งคือ การเป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มันเป็นการวางบทบาทเพื่อการสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนรุ่นใหม่แทบจะทุกวงการ นอกจากนั้น ยังมีหัวโขนเป็นรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ที่มีการประชุมนัดแรกไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยที่ลูกสาวคนเล็กของ ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์หลังประชุมแสดงให้เห็นถึงการทำการบ้าน และเข้าใจต่อโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นอย่างดี

ไม่เพียงเท่านั้น การประชุมดังกล่าวยังได้มีการตั้งคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ทำหน้าที่ติดตามและกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ โดยตำแหน่งประธานมอบหมายให้อุ๊งอิ๊งทำหน้าที่ และมีกรรมการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพในระยะยาวของประเทศ คนไทยแข็งแรง ชาติมั่นคง นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ สร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยที่ลูกสาวคนเล็กของทักษิณยังบอกด้วยว่า วันนี้จำเป็นต้องยกระดับโครงการดังกล่าวให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและวิถีชีวิตเป็นปัจจุบัน เพื่อเป็นการปูทางสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้นของโครงสร้างระบบสาธารณสุขในทุกมิติ พร้อมแสดงความมั่นใจว่าหากนโยบายนี้เสร็จสมบูรณ์ไทยจะมีระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลสุขภาพของประชาชนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต จะไม่ให้คนมองได้อย่างไรว่า การขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า

เป็นอันว่าถูกปฏิเสธโดยเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปเป็นที่เรียบร้อยกับญัตติขอให้สภาพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้ ครม.ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ เพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล เมื่อที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบ 262 เสียง ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นการทับซ้อนการทำงานของรัฐบาล ที่มีการตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองและหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

นี่เป็นบทพิสูจน์ความแตกต่างอีกหนเรื่องชั้นเชิงในสภา ก่อนหน้า อดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ขู่ฟ่อด ๆ จะยกญัตติอื่นมาแทรกญัตติของก้าวไกลในลักษณะประวิงเวลา เอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรในกอไผ่ ปล่อยให้มีการพิจารณาและยกมือโหวต ผลเป็นอย่างที่เห็น เป็นการบีบให้พรรคชนะเลือกตั้งต้องหันไปเดินเกมการเมืองนอกสภา ซึ่งในบริบทปัจจุบันคนยังไม่มีอารมณ์ร่วม เพราะต้องการให้รัฐบาลเศรษฐาได้พิสูจน์ฝีมือก่อน นั่นจึงทำให้มีการเร่งงานกันเพื่อบรรลุเป้าหมายควิกวิน หลุดจากช่วง 3 เดือนไปแล้วการเมืองอาจจะเข้าสู่โหมดตะลุมบอนอีกคำรบ

Back to top button