จับตา 10 หุ้น จ่อรับนโยบาย “เงินดิจิทัล”

จับตา 10 หุ้น จ่อรับนโยบาย “เงินดิจิทัล” หลังผลประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายชุดเล็กคืบจากการสำเสนอการพิจารณาผู้รับสิทธิ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากผลประชุมคณะอนุกรรมการนโยบาย Digital Wallet ชุดเล็กวานนี้ได้มีข้อสรุปว่าจะเน้นใช้แหล่งที่มาเงินทุนจากเงินงบประมาณ โดยพิจารณาให้สิทธิ์เฉพาะกลุ่ม ซึ่งเบื้องต้นจะเสนอ 3 แนวทาง ซึ่งงบประมาณจะลดลงเหลือ 1.6-4.9 แสนล้านบาท (เดิม 5.6 แสนล้านบาท)

โดยมีการหารือว่าจะมีการจ่ายเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย 15-16 ล้านคน ใช้งบ 1.6 แสนล้านบาท  ซึ่งจะมีการตัดกลุ่มที่มีความพร้อมทางสังคมรายได้เดือนละ 2.5 หมื่นบาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 1 แสนบาท เหลือผู้รับสิทธิ์ 43 ล้านคน ใช้งบ 4.3 แสนล้านบาท และตัดกลุ่มที่มีความพร้อมทางสังคม รายได้เดือนละ 5 หมื่นบาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 5 แสนบาท เหลือผู้รับสิทธิ์ 49 ล้านคน ใช้งบ 4.9 แสนล้านบาท

นอกจากนี้จะมีการขยายพื้นที่การใช้เป็นระดับอำเภอ vs เดิมใช้งานบริเวณ 4 กม. จากบ้าน  อีกทั้งให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้จัดทำระบบ Platform ใหม่ รวมถึงเลื่อนกรอบเวลาใช้นโยบายเป็น เม.ย. – พ.ค. 2566 และเน้นให้สามารถใช้กับสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ประเมินเป็นบวกเพราะจะช่วยผ่อนคลายความกังวลตลาด โดยเฉพาะความกังวลการก่อหนี้เพิ่มเติมของรัฐฯที่ลดลง มีโอกาสช่วยลดแรงกดดัน Bond Yield ไทยเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง

นอกจากนี้เชื่อว่ามีการกระตุ้นเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพ อิงการศึกษาของ Krungsri Research ที่เชื่อว่าการแจกเงินให้กับกลุ่มค่าใช้จ่ายต่อเดือนมากกว่ารายได้ คือ กลุ่มที่เป็นหนี้และรายได้ครัวเรือนต่ำกว่า 5.0 หมื่นบาท, กลุ่มที่ไม่เป็นหนี้และรายได้ครัวเรือนต่ำกว่า 1.0 หมื่นบาท ทั้ง 2 กลุ่มเป็นกลุ่มที่มีปัญหากำลังซื้อมากที่สุด การแจก 2 กลุ่มดังกล่าวจะช่วยเม็ดเงินหมุนเวียนใหม่ได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่มีปัญหาทางการเงิน

ดังนั้น ประเมินความชัดเจนนโยบายดังกล่าวที่เพิ่มขึ้นและมีการปรับปรุงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยังเป็นภาพบวกต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์ อาทิ ค้าปลีก ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL, บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT, บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME, บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL

ขณะที่ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ส่วนเช่าซื้อ ได้แก่ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และกลุ่มดิจิตอล ได้แก่ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK, บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8,  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ที่ก่อนหน้านี้ยังแทบไม่สะท้อนภาพบวกนโยบายดังกล่าว

Back to top button