เริ่มกลับตัวโมนิก้าและทีมงาน

*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเที่ยวก่อนๆ จุดเด้งกลับยังเป็นจุดเดิมที่เคยลงมาก่อนหน้านี้ ส่วนแนวต้านเดิมยังคงเป็นจุดขายทำกำไรอีกเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่เห็นการแกว่งตัวไปมาในกรอบเดิมๆ เพราะเป็นเรื่องที่เคยเห็นมานักต่อนัก อีกทั้งปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนี ก็ผลุบๆ โผล่ๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ดัชนีถึงสวิงสวายสุดๆ ไงล่ค่ะ


*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเที่ยวก่อนๆ จุดเด้งกลับยังเป็นจุดเดิมที่เคยลงมาก่อนหน้านี้ ส่วนแนวต้านเดิมยังคงเป็นจุดขายทำกำไรอีกเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ที่เห็นการแกว่งตัวไปมาในกรอบเดิมๆ เพราะเป็นเรื่องที่เคยเห็นมานักต่อนัก อีกทั้งปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนี ก็ผลุบๆ โผล่ๆ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ ดัชนีถึงสวิงสวายสุดๆ ไงล่ค่ะ

*วันนี้ถึงต้องมองการลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรกเป็นการมองไปที่เรื่องของการเทรดดิ้ง เพื่อเพิ่มผลตอบแทนในภาวะการลงทุนผันผวน ส่วนที่สองเป็นการมองไปที่เรื่องของการเก็บหุ้นปันผล เพื่อทำให้ผลตอบแทนเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับรับไปพิจารณาดูสักหน่อย เพราะการกลับตัวเที่ยวนี้มาพร้อมกับโอกาสทองนะจะบอกให้

*งานนี้ไม่ต้องวิเคราะห์อะไรให้มากความ เพราะแค่รู้ว่า “กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้” เพียงแค่นี้ก็หวนกลับเข้ามาลงทุนได้อีกรอบ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า ดัชนีจะไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,300 จุด หลังจากกองทุนตัวแสบ ปอบผีฟ้า และแมงเม่าปีกแข็ง ช่วยกันซื้อหุ้นอย่างแข็งขัน ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวสาดออกมาคนเดียว 5.20 พันล้านบาท แต่ดัชนียังวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,274.50 จุด บวกไป 12.84 จุด ด้วยมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท มันแทบไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้วนะจ๊ะ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของหุ้นไก่ CPF มองในมุมของนักเล่นก็เห็นได้ทันทีว่า นี่เป็นการดีดกลับเมื่อลงมาทำ double bottom ที่บริเวณ 17 บาท วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 17.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น “โมนิก้า” ถึงมองข้ามช็อตไปยังเป้าหมาย 22 บาท เพราะเป็นจุดที่หุ้นจะวิ่งขึ้นไปทำ double top อีกรอบไงล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับการกระชากขึ้นของหุ้นสื่อสาร วันนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนที่ทำหุ้นร่วงหนัก ไม่ใช่ใครที่ไหน คนกันเองแทบทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่จำเป็นต้องไปอธิบายเรื่องการทะยานขึ้นของหุ้นให้เสียเวลา เพราะมันรู้กันอยู่แล้วว่า เมื่อใดที่นักลงทุนในประเทศซื้อหุ้นไปในทางเดียวกัน หุ้นก็พุ่งขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสันอย่างที่เห็นนี่แหละ..ถ้าวันนี้หุ้นขึ้นต่อแสดงว่า เริ่มสะสมหุ้นรอบใหม่แล้วนะคะ

*ส่วนกลุ่มหุ้นที่รับส้มหล่นเต็มๆ ในเที่ยวนี้กลายเป็นหุ้นค้าปลีก  ไม่ว่าจะเป็น ROBINS HMPRO GLOBAL BIGC ล้วนได้รับอานิสงส์จากมาตรการคืนความสุขแทบทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้มิตรรักแฟนคลับจับจ้องจังหวะการลงทุนเที่ยวนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะราคาหุ้นกลุ่มนี้ต่ำกว่าราคาเป้าหมายค่อนข้างเยอะ จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้เล่นจะได้โหนกระแสกันอีกรอบนะจะบอกให้

*เม้าถึงจังหวะโหนกระแสแบบนี้ “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดู WICE เพื่อเปิดเป็นออปชั่นให้กับเหล่าผู้กล้า แถมไซเคิลของหุ้นในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ก็วนเวียนอยู่ในกรอบ 2.50-3.20 บาท จึงกลายเป็นทางเลือกหลักที่เดี๊ยนอยากจะเม้าท์ถึงมากๆ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.80 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 11% มันคือ “โอกาส” หรือ “ความเสี่ยง” ต้องประเมินกันเอาเองนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ASEFA ยังคงวนเวียนไปมาในกรอบเดิมๆ ขึ้นก็ขึ้นไม่สุด ลงก็ลงไม่สุด ทั้งหมดน่าจะมาจากมีคนบางคนยังเก็บของได้ไม่ครบกระมั้ง! ถึงไม่ยอมปล่อยหุ้นออกจากฐานสักที แต่เผอิญแรงซื้อในเที่ยวนี้มีเข้ามาค่อนข้างเยอะ หุ้นเลยกระชากขึ้นมาปิดที่ 5.60 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.70% มันเป็นจังหวะของการไล่ต่ออย่างแน่นอน เพราะกูรูสำนักหนึ่งที่เดี๊ยนรู้จักนั้น เขาให้ราคาเป้า 7 บาทนะจะบอกให้

*ไหนๆ ก็เม้าท์ถึงของแรงๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นในตลาด mai สักหน่อยดีกว่า  เพราะมีหุ้นหลายตัวที่แสดงความร้อนแรงจนหลายคนมองค้อน โดยเฉพาะในรายของ BSM จู่ๆ กระชากขึ้นมาปิดที่ 0.70 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 30%  แถมมีวอลุ่มซัพพอร์ต มันทำให้เชื่อว่า วันนี้น่าจะเล่นกันต่ออีกยก จึงไม่ควรพลาดช็อตเด็ดในวันนี้นะคะ

*ส่วนที่เหลืออีก 4 ตัวอย่าง OCEAN PPS KCM HPT ก็ปรับตัวแรงไม่ใช่เล่นเหมือนกัน เพราะทุกตัวที่เอ่ยถึงนั้น ทะยานขึ้นขั้นต่ำ 28% แถมทั้งหมดที่กล่าวถึงก็เป็นหุ้นที่มีสังกัดที่ชัดเจนเสียด้วย พรายกระซิบเลยแซวกันอย่างสนุกปากยกใหญ่ว่า นี่เป็นการเฉลิมฉลองงานอะไรล่วงหน้าหรือเปล่า? ถึงพร้อมใจวิ่งกระฉูดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “โมนิก้า” ถึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรทั้งสิ้น เพราะต้องการกลไกในตลาดหุ้นทำหน้าที่ของมันเอง ก็ในเมื่อหุ้นใหญ่เล่นลำบาก การกระโจนใส่หุ้นเล็ก จึงเป็นทางเลือกดีที่สุดในยามนี้ไงล่ะค่ะ

*ตบท้ายกันที่เรื่องโอละพ่อ! เมื่อหน่วยงาน ก.ล.ต. ครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่รู้ ลุกขึ้นมานัดแถลงข่าวด่วนตอนปิดตลาดเย็นวานนี้ ซึ่งทำให้ผู้คนในวงการตลาดหุ้นคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องลงโทษ บล.เออีซี  “โมนิก้า” พร้อมด้วยมิตรรักแฟนเพลงถึงกับหงายเงิบกันเป็นแถบ เพราะข่าวการลงโทษผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นก็มีการประกาศออกมาเป็นระยะเจ้าค่ะ

*เดี๊ยนถึงอยากเรียนถาม “เจ๊ปะราลี” เพื่อประดับเป็นความรู้หน่อยว่ากรณีนี้เร่งด่วนกว่ากรณีอื่นหรืออย่างไร?และกรณีของ NMG ไปถึงไหนแล้ว? นักลงทุนรายย่อยรอฟังความชัดเจนเรื่องนี้เยอะพอสมควร ถ้ามีเวลาช่วยตั้งโต๊ะแถลงด้วยก็ดีนะตัวเอง..มีคนเขาฝากถามเดี๊ยนมาเยอะเหลือเกิน..อิอิอิ

Back to top button