อีกลมหายใจ ‘เอเวอร์แกรนด์’
ศาลฮ่องกง เลื่อนการนัดฟังคำให้การคดีล้มละลาย “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนออกไปอีก 5 สัปดาห์
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ต.ค.) ศาลฮ่องกง เลื่อนการนัดฟังคำให้การคดีล้มละลาย “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนออกไปอีก 5 สัปดาห์ เพื่อให้บริษัทดำเนินการไกล่เกลี่ยเจรจากับเจ้าหนี้ต่าง ๆ ก่อน
หลังจาก “เอเวอร์แกรนด์” กำลังเตรียมแผนปรับโครงสร้างหนี้ โดยผู้พิพากษาลินดา จาง ระบุว่า ครั้งนี้จะเป็นการเลื่อนครั้งสุดท้ายก่อนการพิจารณาและเอเวอร์แกรนด์ ต้องมีแผนปรับโครงสร้างหนี้ภายในวันที่ 4 ธ.ค. 66
มิเช่นนั้นแล้วน่าจะ “ต้องล้มละลาย” ได้
ทั้งนี้ “เอเวอร์แกรนด์” ถือว่าเป็นสัญลักษณ์วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของจีน ด้วยหนี้สินที่มากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และไม่สามารถจ่ายหนี้หุ้นกู้นอกประเทศ มาตั้งแต่ปลายปี 2564
ช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้พยายามที่จะปรับโครงสร้างหนี้นอกประเทศ มูลค่า 23,000 ล้านบาท แต่ต้องล้มเลิกไปจากการที่มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง ฮุย กายัน ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอาชญากร
ส่งผลให้โครงการใหม่ที่กำลังจะนำไปออกหุ้นกู้ถูกอายัดเพื่อการสอบสวนทันที
ฝ่ายกฎหมายของ “เอเวอร์แกรนด์” ให้การต่อศาลว่า บริษัทกำลังเตรียมแผนปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการใช้มูลค่าจาก 2 บริษัทย่อยและได้ติดต่อผู้ถือหุ้นกู้เดิม เพื่อเสนอให้แลกเปลี่ยนหุ้นกู้เดิมกับหุ้นสามัญและพันธบัตรที่ผูกกับ 2 บริษัทย่อยดังกล่าว นั่นคือ Evergrande Property Service Group และ Evergrande New Energy Vehicle Group
ขณะที่ราคาหุ้น “เอเวอร์แกรนด์” มีการปรับตัวลงกว่า 9.75%
ส่วนฝั่งทนายฝ่ายผู้ถือหุ้นกู้และพันธบัตร เห็นด้วยกับการเลื่อนดังกล่าว เพราะการปรับโครงสร้างหนี้ มีโอกาสได้รับเงินคืนมากกว่าการล้มละลาย ที่น่าจะได้เงินคืนแค่ 3%
“ไม่มีใครอยากเห็นการล้มละลาย แต่ตอนนี้เราไม่เห็นทางเลือกที่ดีกว่าจากเอเวอร์แกรนด์”
ขณะที่ Top Shine ผู้ลงทุนในยูนิต Fangchebao ของเอเวอร์แกรนด์ ได้ยื่นฟ้องบริษัทช่วงปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่าทางบริษัททำผิดข้อตกลงในการซื้อหุ้นคืนจากผู้ลงทุนในยูนิต..
อีกหนึ่งบริษัทคือ “โลแกนกรุ๊ป” บริษัทอสังหาริมทรัพย์จากเซินเจิ้น ได้เลื่อนการนัดฟังเช่นเดียวกับ “เอเวอร์แกรนด์” โดย “โลแกนกรุ๊ป” ได้หยุดจ่ายดอกเบี้ยและปรับโครงสร้างหนี้นอกประเทศมูลค่ากว่า 3.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปัญหาสภาพคล่อง มาตั้งแต่ปี 2565
แต่ยังไม่มีความคืบหน้าการเจรจาไกล่เกลี่ยและปรับโครงสร้างหนี้ช่วงปีนี้เท่าไรนัก
“โลแกนกรุ๊ป” ยังถูกตัวแทนผู้ถือพันธบัตรที่จะครบกำหนดปี 2568 ฟ้องร้องด้วยเช่นกัน
โดย 1 ใน 4 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจีนอยู่ในธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ทั้งหากเกิดการขายสินทรัพย์ล้มละลายทั้งหมดของเอเวอร์แกรนด์ ประมาณ 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลกระเทือนต่อ “ตลาดทุนที่เปราะบาง” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้ว่าจะไม่กระทบต่อโครงการก่อสร้างอย่างทันทีก็ตาม..!!!