KBANK กลับมาจากพงหนาม
กำไรที่สวยงามในไตรมาสที่สามและคาดว่าจะดีต่อเนื่องถึงไตรมาสสุดท้าย ที่คาดหมายว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตกว่าปีก่อนหน้านี้ 22%
กำไรที่สวยงามในไตรมาสที่สามและคาดว่าจะดีต่อเนื่องถึงไตรมาสสุดท้าย ที่คาดหมายว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตกว่าปีก่อนหน้านี้ 22% ทำให้ราคาหุ้นรายนี้ยังคงแข็งแกร่งไม่ดิ่งเหวลงไปตามดัชนีของตลาด
นอกจากนี้ยังทำให้กำไรสุทธิของธนาคารรายนี้ยังยึดครองอันดับเหนือคู่แข่งรายสำคัญอย่าง BBL และ SCB ที่มีกำไรสูงในไตรมาสที่หนึ่งและสอง เรียกว่าพ้นพงหนามไปแล้ว แม้สำนักวิเคราะห์ต่าง ๆ จะพากันชี้แนะว่าให้ซื้อเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น เพราะ NPL ยังสูงอยู่กดดันความสามารถในการทำกำไรของธนาคารอยู่ต่อไป
แม้ว่าภาวะโดยรวมของตลาดเงินจะอยู่ภายใต้สภาวะอัตราดอกเบี้ยนโยบายขาขึ้น และยังคงอยู่ในระดับสูง นักลงทุนต่างคาดหวังว่าผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะได้รับประโยชน์ ซึ่งหุ้นของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KBANK กำลังเป็นที่จับตามองว่าอานิสงส์ดังกล่าวนั้น จะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้กำไรสุทธิสามารถเติบโตได้มากน้อยเพียงใด หลังมีปัจจัยลบที่ยังกดดัน อย่างการตั้งสำรองและความเสี่ยงของลูกหนี้รายย่อยและ SME ที่ยังมีสัญญาณเป็นหนี้เสีย
บทวิเคราะห์ในเชิงบวกแบบมีเงื่อนไขดังกล่าวทำให้ราคาดันกลับมาที่ระดับเหนือ 130 บาทได้อีกครั้งหลังจากที่ต่ำเตี้ยมายาวนานเนื่องจากกำไรลดลงในช่วงสองไตรมาสแรก
เพียงแต่ความมั่นใจของนักลงทุนในยามนี้ อาจจะเข้าข่ายหลอกลวงตัวเอง ทั้งนี้เพราะยังไม่รู้ว่ากรรมการบริษัทจะจ่ายเงินปันผลงวดสิ้นปีเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน
2 ปีก่อนราคาของหุ้น KBANK ได้วิ่งขึ้นมาจนเป็นหุ้นธนาคารที่สูงสุดในตลาดหลังจากที่กรรมการของธนาคารได้ตัดสินใจจ่ายปันผลสูงสุด ภาวะเช่นนี้น่าจะกลับมาอีกครั้งถ้าหากว่าผู้บริหารและกรรมการตัดสินใจจ่ายปันผลงดงาม
การแปลงสภาพจากการที่มีกำไรโดดเด่นสุดในตลาดและในกลุ่มธนาคาร ทำให้ราคาหุ้นกลับมาโดดเด่นได้อีกครั้งหนึ่ง ปัจจัยดังกล่าวขึ้นกับการตัดสินใจของฝ่ายบริหารและกรรมการธนาคารว่าจะใจป้ำจ่ายปันผลมากน้อยแค่ไหน หากจ่ายปันผลน้อยราคาหุ้นที่ขึ้นไปเหนือ 130 บาท ก็ถือว่าเป็นราคาหลอกลวง จะทำให้แรงขายออกมาจนกระทั่งราคาซื้อขายเหนือ 130 บาท เป็นราคาที่สูงเกินไป ซึ่งอาจทำราคาที่นักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะขึ้นไปที่ 149 บาท จะเป็นไปไม่ได้อีกนาน