รอข่าวดีจากกสทช.

ช่วงปลายเดือน ต.ค.ต่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสร่วมคณะสื่อมวลชนอาวุโส เดินทางไปดูงาน “พลังงานแห่งอนาคต (Future Energy) รองรับวิสัยทัศน์ใหม่ปตท.และการจัดการด้านความยั่งยืน” ณ สาธารณรัฐโปรตุเกส และราชอาณาจักรสเปน

ผู้บริหารปตท.ที่นำโดย “คุณโด่ง” อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เอาจริงเอาจังมากนะครับกับการเปลี่ยนผ่านปตท.สู่พลังงานสะอาด ที่มุ่งเน้นการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายใน ค.ศ. 2040 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็น 0 (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2050

ทั่วแผ่นดินยุโรปในขณะนี้ ตื่นตัวกันมากในเรื่องของพลังงานทางเลือก การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ และหาพลังงานสะอาดมาทดแทนพลังงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่นพลังงานไฮโดรเจน

สถาบันการศึกษาชั้นนำต่าง ๆ ก็ปรับทิศทางการศึกษาใหม่เพื่อการนี้ มีการผนึกความร่วมมือกับบริษัทธุรกิจภายนอก เพื่อสนับสนุนเงินทุนและงานวิจัยอย่างกว้างขวาง ผมคงจะหาทางเล่าเรื่องการดูงานกับปตท.ในโอกาสต่อไป 

ผลพลอยการเดินทางไปยุโรปตอนใต้อย่างหนึ่งก็คือ ได้เห็นระดับพัฒนาการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมทั้งในโปรตุเกสและสเปนว่า ยังมีระดับที่ต่ำกว่าประเทศไทยเราสัก 1-2 ช่วงตัวเห็นจะได้

ผมได้ขอเปิด “เน็ต โรมมิ่ง” ความเร็วสูงสุดจำนวน 7GB ที่เลือกเครือข่ายอัตโนมัติในราคาเพียง 900 บาทจากกรุงเทพฯ ทำให้การติดต่อสื่อสารกับเมืองไทยสะดวกมาก เพราะสามารถสื่อสารกันได้ทั้งทางข้อความและเสียงทางไลน์

ก็พบว่าที่โปรตุเกสนั้นยังใช้คลื่น 3จี และ 4จี ที่ยังไม่เต็มสมบูรณ์อยู่เลย ทำให้การอ่านข้อมูลค่อนข้างช้า ส่วนที่สเปนดีขึ้นมาหน่อยมี 4จี เป็นพื้น และมี 5จี ที่ยังไม่เต็มดีนัก ต่างกับไทยเราตอนนี้ที่มี 5จี ทั่วราชอาณาจักร รับ-ส่งข้อมูลกันได้ลื่นปรื๊ด ๆ

ทำให้นึกถึงการทำงานของกสทช.ยุคที่มีฐากร ตัณฑสิทธิ์เป็นเลขาธิการ ที่ฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ จนสามารถเปิดประมูลคลื่น 4จี และ 5จี ได้สำเร็จในช่วงเวลาเพียง 5 ปี และได้เงินจากการประมูลเป็นมูลค่าสูงมาก

กล่าวคือประมูลคลื่น 4จี ปี 2558 ได้เงินรวม 80,778 ล้านบาท และคลื่น 5จี ประมูลปี 2563 ได้เงินรวม 100,521 ล้านบาท

นับเป็นคุณูปการอย่างสูงต่อกิจการสื่อสารโทรคมนาคม ที่สามารถต่อยอดไปยังวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ภาคเศรษฐกิจจริง และภาคเศรษฐกิจดิจิทัล อีกทั้งยังส่งรายได้เข้าแผ่นดินเป็นมูลค่าสูงอีกด้วย

เปรียบเทียบผลงานกับกสทช.ชุดปัจจุบันที่มีอายุงานกว่า 1 ปีครึ่งมาแล้ว แต่ปรากฏว่าจนบัดนี้ แม้แต่ตำแหน่งเลขาธิการ ก็ยังตกลงกันไม่ได้เลย จะเอาใคร

กรรมการกสทช.มีทั้งหมด 7 คน แบ่งเป็นฝ่าย 3 คนและฝ่าย 4 คน การทำงานก็ขัดแย้งกันไปมา หากฝ่าย 3 คนเอา ฝ่าย 4 คนก็ไม่เอา หรือหากฝ่าย 4 คนเอา ฝ่าย 3 คนในกลุ่มของคุณหมอสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ก็ไม่เอาด้วย

ดังเช่นกรณีการแต่งตั้งตำแหน่งเลขาธิการที่ยืดเยื้อมานี่แหละ

มาคราวนี้ การประชุมกสทช.นัดพิเศษ เพื่อพิจารณารับทราบข้อเสนอการควบรวมกิจการระหว่าง AWN ในเครือ AIS กับ 3BB รวมทั้งการเข้าซื้อหน่วยลงทุน JASIF จาก 3BB เพียงวาระเดียวในวันที่ 10 พ.ย.นี้ หวังว่าจะได้เห็นอะไรที่มัน “สะเด็ดน้ำ” ได้เสียที

เพราะใช้เวลากันมากว่า 1 ปีแล้ว  ผ่านอนุกรรมการพิจารณา 4 คณะมาแล้ว และผ่านที่ปรึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้ส่งรายงานมาครบหมดแล้ว แถมยังเป็นฉบับเต็มสมบูรณ์ด้วย

ไม่มีอะไรจะพร้อมเพรียงขนาดนี้แล้ว! หวังว่ากสทช.จะผ่านพิธีกรรมควบรวมดังกล่าวเป็น “ของขวัญปีใหม่” ได้เสียที

เพราะนี่คือดีลประวัติศาสตร์ที่จะตัดสินถึงอนาคตกิจการสื่อสารโทรคมนาคมให้มีความมั่นคงรุ่งเรืองและเจริญก้าวหน้าสืบไป