“ก.ล.ต.-ตลท.” ยันไม่แบนชอร์ตเซลตามรอย “เกาหลีใต้” ไร้เกี่ยวผู้ร้ายทำตลาดร่วง

"ก.ล.ต.-ตลท." ยันไม่แบนชอร์ตเซลตามรอย "เกาหลีใต้" เหตุมีประเด็นบวกมากกว่าลบ และไม่มีผลทำให้ทำตลาด-ราคาหุ้นร่วงลดลง มั่นใจขบวนการดูแล-ตรวจสอบ พร้อมติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิดไม่พบความผิดปกติ ฟาก "ภากร" ชี้โปรแกรมเทรดจากต่างชาติ ไม่ใช่ต้นเหตุ เผย “ย่ามาล่าแม่มด”


นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการห้าม Short Sell เพราะเนื่องจากยังมองไม่เห็นว่าการห้าม Short Sell จะเป็นผลบวกมากกว่าผลลบ โดยในช่วงที่ผ่านมาสัดส่วนการทำ Short Sell ในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีสัดส่วนแค่เพียง 5.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งถือว่าไม่ได้มีความแตกต่างจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้มีการติดตามข้อมูลตัวเลขดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องและขณะนี้ยังไม่พบข้อผิดปกติแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันจากข้อมูลที่ทาง ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบพบว่าการทำ Short Sell นั้นไม่ได้มีผลกระทบให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงรุนแรง หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการทุบหุ้น หากห้ามการทำธุรกรรมชอร์ตเชลเสมือนเป็นการอั้นกลไกของราคาตลาด

อีกทั้งหากเทียบกับมูลค่าการซื้อขายของปีก่อนที่ภาวะตลาดดีกว่าปีนี้ การทำช็อตเซล มูลค่าแทบไม่ได้แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ สถานการณ์ยังทรงตัวเหมือนเดิม ขณะที่แยกตามประเภทของหลักทรัพย์ที่เกิดการช็อตเซล ไม่ว่าจะเป็นหุ้น กลุ่ม SET50 ไปจนถึงหุ้นขนาดเล็ก พบว่ายังมีสัดส่วนอยู่ในระดับเดิม อย่างไรก็ดีอาจมีอยู่บ้างที่มีความแตกต่างเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้มีนัยสำคัญ เช่น การทำช็อตเซลผ่าน ETF เป็นต้น

 

ส่วนแนวทางกำกับดูและเราแยกตามกลุ่ม อาทิ 1.Reporting /Public Disclosure, 2.Price Restrictions (tick rule) และ 3.แบน(ฺBAN) ซึ่งในประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศส่วนใหญ่ หรือกลุ่มกลางที่เปิดให้ทำช็อตเซลแบบมีเงื่อนไข(Price Restrictions (tick rule) คือมีเกณฑ์ให้ทำในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาซื้อขายล่าสุด และห้ามการทำ Naked ช็อตเซล ไม่ว่าจะโปรแกรมเทรดดิ้งหรือซื้อขายปกตื ต้องมีหุ้นก่อน หรือยืมหุ้นมาก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการผิดนัดส่งมอบ  ด้วยกลไกที่มีอยู่ทำให้เราต้องมั่นใจว่าสามารถห้ามได้และเอาผิดได้ Naked ช็อตเซลได้

ส่วนกรณีของเกาหลีใต้ที่ห้ามทำช็อตเซล 6 เดือน ในรายละเอียดเขาใช้เพื่อเอาเวลาช่วงนี้ไปสอบทานการทำ Naked ช็อตเซลที่ผิดกฎหาย แต่เราไม่จำเป็นต้อง Ban เพราะเราสอบทานเป็นปกติอยู่แล้ว เรามั่นใจในกลไกการสอบทาน และเรายังไม่เห็นการทำช็อตเซลจะกลายเป็นผลลบมากกว่าบวก

ส่วนโปรแกรมเทรดดิ้งที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นนั้น ต้องบอกว่าขณะนี้ไม่ใช่แค่เพียงนักลงทุนต่างชาติเพียงเท่านั้นที่สามารถใช้โปรแกรมซื้อขายได้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆ ก็ได้ให้บริการกับนักลงทุนรายย่อยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ มองว่าโปรแกรมเทรดดิ้งมีสัดส่วนที่ดีต่อตลาดหุ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย และโปรแกรมเทรดดิ้งเป็นเพียงระบบบริหารจัดการการซื้อขาย ไม่ใช่แค่เป็นโปรแกรมซื้อขายเพื่อหวังแค่เพียงกำไรอย่างเดียว

ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้สัดส่วนปริมาณธุรกรรม Short Sell และการใช้โปรแกรมเทรดดิ้งนั้นมีสัดส่วนเท่าเดิม ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากในช่วงที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยปริมาณซื้อขายของตลาดปรับตัวลดลง จึงส่งผลให้สัดส่วนการซื้อขายดังกล่าวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันธุรกรรมที่เกิดจากการชอร์ตเชลที่เกิดจากนักลงทุนต่างชาติไม่ได้มีส่วนทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปมากเท่าที่ควร แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำธุรกรรมจากบุคคลบางกลุ่มที่ทำชอร์ตเชลและมีผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปมาก

สำหรับวอลุ่มตลาดที่ลดลง 30% ในช่วงนี้ อาจมีส่วนที่ดูแล้วทำให้ปริมาณ Short Sell เหมือนจะเพิ่มขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ต่างจากเดิมมากนัก ขณะที่ ในปี 2562-2565 วอลุ่มตลาดเพิ่มขึ้นจากนักลงทุนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่วนมากจะเป็นโปรมแกรมเทดดิ้ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงพยายามออกผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงได้สะดวก และง่ายขึ้น เพื่อให้นักลงทุนสนใจมากขึ้น

ขณะที่การใช้โปรแกรมเทรดดิ้งนั้นไม่ได้เป็นรูปแบบของใช้ High Frequency Trading หรือ HFT ทั้งหมด ซึ่งการใช้ HFT นั้นคิดเป็นสัดส่วนแค่เพียง 10% และจะซื้อขายในหุ้น SET50 ที่มีสัดส่วนสภาพคล่องสูงเท่านั้น

“จากการตรวจสอบของ ตลท. พบกลุ่มนักลงทุนกลุ่มอื่นชอร์ตหุ้นมากกว่า โปรแกรมหุ้นของต่างชาติ และขอบอกว่า เราไม่ได้ดูแค่ % เราดูถึงขั้นว่า เวลาไหน นักลงทุนกลุ่มไหน ชอร์ตหุ้นอะไร และขอให้มั่นใจว่าเราดูแลเรื่องนี้มาตลอด และขอเถอะครับอย่าหาเหตุผลหุ้นลง จากชอร์ตเซล เพราะหุ้นลงจากหลายปัจจัยอย่าหาแม่มดเลย”

นายภากร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการผิดนัดชำระหุ้นกู้และการยื่นฟื้นฟู JKN เป็นกรณีเกิดขึ้นเฉพาะบริษัท แต่ก็ยอมรับว่าในภาวะที่สภาพคล่องต่ำ ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุน ดังนั้นการขายหุ้นกู้ก็จะยากขึ้น ส่วนความคืบหน้าเรื่องขยายระยะเวลาเทรด ขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นกับผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่

Back to top button