WTI ปิดบวก 2% หลังอิรักหนุน “โอเปกพลัส” ลดกำลังผลิตต่อ

“น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส” ปิดพุ่ง 1.43 เหรียญ หรือเพิ่ม 1.9% ที่ระดับ 77.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังอิรักหนุนกลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันลง ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย-รัสเซียยังคงปรับลดการผลิตน้ำมันไปจนถึงสิ้นปี ประกอบกับแรงซื้อเก็งกำไรเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลล์


สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (10 พ.ย. 66) โดยได้แรงหนุนจากการที่อิรักสนับสนุนให้กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีกก่อนการประชุมในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า และนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรสัญญาน้ำมันดิบเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลล์ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงติดลบในรอบสัปดาห์นี้จากการคาดการณ์แนวโน้มปริมาณน้ำมันส่วนเกินซึ่งได้บดบังความเสี่ยงด้านอุปทานที่อาจจะเกิดจากการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 77.17 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลงเกือบ 4.2% ในรอบสัปดาห์นี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 81.43 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ร่วงลง 4.1% ในรอบสัปดาห์นี้

ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า นอกจากความเห็นของอิรักที่ช่วยหนุนตลาดนั้น ซาอุดีอาระเบียและรัสเซียก็ได้ยืนยันในสัปดาห์นี้ว่า จะยังคงปรับลดการผลิตน้ำมันลงไปจนถึงสิ้นปี

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ส ซึ่งให้บริการด้านพลังงานระบุว่า บรรดาบริษัทพลังงานของสหรัฐได้ปรับลดการดำเนินงานของแท่นขุดเจาะน้ำมันลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2565

ขณะที่กลุ่มโอเปกพลัสและพันธมิตรซึ่งรวมถึงรัสเซียจะประชุมกันในวันที่ 26 พ.ย. 2566 โดยกระทรวงน้ำมันของอิรักเปิดเผยว่า อิรักจะปฏิบัติตามข้อตกลงของโอเปกพลัสเกี่ยวกับระดับการผลิตน้ำมัน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า มีโอกาสที่ซาอุดีอาระเบียจะขยายการปรับลดการผลิตไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า เมื่อพิจารณาจากการที่ตลาดมีความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับอุปสงค์ของจีนและแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และคาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัสอาจจะปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก หากราคายังคงปรับตัวลง

Back to top button