THAI เริ่มมีรูปทรง.!?

หลังจาก THAI ต้องแอดมิตในห้องไอซียู อุ๊ย...เข้าแผนฟื้นฟูฯ มาระยะหนึ่งแล้ว ในแง่ของการดำเนินงานเริ่มกระเตื้องขึ้นตามลำดับ


หลังจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ต้องแอดมิตในห้องไอซียู อุ๊ย…เข้าแผนฟื้นฟูฯ มาระยะหนึ่งแล้ว ในแง่ของการดำเนินงานเริ่มกระเตื้องขึ้นตามลำดับ เห็นได้ชัดจากงบไตรมาส 3/2566 ที่พลิกมามีกำไรสุทธิ 1,538 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 4,785 ล้านบาท

ที่น่าสนใจ ในไตรมาสนี้ไม่มีการบุ๊กกำไรพิเศษ หรือมีก็น้อยมาก แทบไม่มีนัยสำคัญที่จะมาหลอกตานักลงทุนเหมือนกับงบไตรมาสก่อน ๆ นะ…

บ่งบอกว่า THAI เริ่มมีรูปมีทรงแล้วแฮะ..!!

ขณะที่ไปแงะดูไส้ใน จะเห็นว่าตัวเลขสำคัญต่าง ๆ เริ่มดูดี ไม่ว่าจะเป็นรายได้อยู่ที่ 37,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% แบ่งเป็น รายได้จากค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกิน 30,921 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.4% มาจากปริมาณการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 22.0% คิดเป็นเงิน 5,300 ล้านบาท ในขณะที่มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 21.5% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 77.3% สูงกว่าปีก่อน ซึ่งเฉลี่ย 77.0%

ด้านรายได้จากค่าระวางขนส่งและค่าไปรษณียภัณฑ์อยู่ที่ 3,461 ล้านบาท ลดลง 46.1% เป็นผลจากมีรายได้จากพัสดุภัณฑ์เฉลี่ยต่อหน่วย (รวมค่าธรรมเนียมชดเชยค่าน้ำมันและค่าประกันภัย) ลดลง 50.1% โดยมีอัตราส่วนการขนส่งพัสดุภัณฑ์เฉลี่ย 52.7% ต่ำกว่าปีก่อนที่เฉลี่ย 59.1% ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณการขนส่งพัสดุภัณฑ์เพิ่มขึ้น 7.1%

ขณะที่รายได้กิจการอื่น ซึ่งประกอบด้วยรายได้การบริการภาคพื้น ครัวการบิน การบริการ คลังสินค้า และรายได้จากกิจการสนับสนุนอื่น ๆ อยู่ที่ 2,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.5% และมีรายได้อื่น 533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 389% เนื่องจากดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นจากเงินสดที่เพิ่มขึ้น

ส่งผลให้ THAI มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงินไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 7,719 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 3,920 ล้านบาท โดยมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว-สุทธิ เป็นค่าใช้จ่ายรวม 2,732 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 2,308 ล้านบาท การปรับปรุงค่าเช่าสำนักงานดอนเมือง 400 ล้านบาท และผลขาดทุนจากการด้อยค่าซึ่งเป็นไปตาม TFRS9 จำนวน 115 ล้านบาท

ขณะที่มี EBITDA หลังหักค่าเช่าเครื่องบินอยู่ที่ 8,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 6,078 ล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย. 2566 THAI ยังมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบอยู่ที่ 54,706 ล้านบาท

จุดที่น่าสนใจ เมื่อการโอเปอเรตเริ่มกลับมาตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่น่าจับตา THAI ตั้งเป้าหมายจะออกจากแผนฟื้นฟูฯ ภายในปีหน้า..? และจะหวนกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงปลายปี 2567 แต่ด้วยเงื่อนไขของแผนฟื้นฟูฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเพิ่มทุนและแปลงหนี้เป็นทุน รวม 8 หมื่นล้านบาท มีแค่ไทม์ไลน์จะแล้วเสร็จช่วงไตรมาส 2/2567 ส่วนดีเทลอื่น ๆ ยังไม่มีความชัดเจน ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่จะออกจากแผนฟื้นฟูฯ ได้เร็วขึ้น…แต่ถ้าเพิ่มทุนและแปลงหนี้เป็นทุนไม่สำเร็จ โอกาสก็คงเลื่อนลอยไปอีก

ส่วนอีกเรื่อง…จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงหรือลดความเสี่ยงให้กับ THAI ก็ไม่รู้สินะ…กับกรณีครม.นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ประกาศแต่งตั้ง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาการบินไทย

ที่จริง THAI ก็อยู่ในแผนฟื้นฟูฯ มีผู้จัดทำแผนอยู่แล้ว…จะมาตั้ง “สุริยะ” อิหยังวะ..?? จะทับซ้อนกันหรือเปล่า..?? อันนี้น่าคิด แล้วคนที่เข้ามาก็เป็นคนการเมืองทั้งนั้น ก็น่าห๊วงห่วงจังเลย..!!

ไม่รู้จะมาช่วยหรือเพิ่มความเสี่ยงให้กับการบินไทยกันแน่ ทั้ง ๆ ที่การบินไทยก็ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจแล้วนะจ๊ะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button