MOSHI กวาดรายได้ 9 เดือนทะลุ 1.7 พันล้าน อัพเป้าปี 66 โตกว่า 30%
MOSHI ประกาศผลงานไตรมาส 3/66 ทำรายได้ 588.71 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 81.42 ล้านบาท ดันผลงานงวด 9 เดือนแรกปี 66 กวาดรายได้ 1,749.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.6% หนุนกำไรสุทธิ 250.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.7% โชว์ยอดขายสาขาเดิมเติบโต 23% พร้อมอัพเป้าหมายผลงานปีนี้รายได้เติบโตกว่า 30% เตรียมเปิดร้าน Moshi Moshi อีกกว่า 10 สาขา และร้าน Garlic อีก 2 สาขา ในไตรมาส 4/66 พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 (กรกฎาคม – กันยายน) บริษัทมีรายได้รวม 588.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ด้านกำไรสุทธิทำได้ 81.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แม้จะเข้าสู่ช่วง Low Season ของธุรกิจแต่บริษัทยังสามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่ดี
โดยมี 3 ปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโต ได้แก่ 1. การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของบริษัทอย่างต่อเนื่อง 2. การเติบโตจากการขยายสาขาใหม่ โดยบริษัทฯ เปิดสาขาใหม่อีก 4 สาขาในไตรมาสที่ 3 รวมเป็น 11 สาขาที่เปิดใหม่ใน 9 เดือนแรกของปีนี้ และ 3. เติบโตจากการเพิ่มสินค้าใหม่ เฉลี่ยกว่า 3,000 รายการในไตรมาตร 3 ซึ่งประกอบไปด้วยสินค้าหมวดหมู่ใหม่ และสินค้าลวดลายใหม่ๆ
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม – กันยายน) มีรายได้รวม 1,749.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านกำไรสุทธิทำได้ 250.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 85.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมรักษาระดับการทำอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ที่ 14.3% ให้ใกล้เคียงกับที่ผ่านมา สำหรับผลการดำเนินงานที่เติบโตมาจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การบริโภคในประเทศ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องรวมถึงการเปิดสาขาใหม่สัดส่วนรายได้ มาจากธุรกิจค้าปลีกในงวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 82% ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่สัดส่วนรายได้ธุรกิจค้าส่งอยู่ที่ 17% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 13% ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้ของธุรกิจค้าส่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ส่งผลทำให้รายได้ของสาขาค้าส่งประตูน้ำและแพลทินัมเติบโตได้ดี อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้ขยายพื้นที่สาขาสำเพ็งในปี 2565 และการเพิ่มสาขา The OK Station ที่เป็นธุรกิจค้าส่งเข้ามาในไตรมาส 2/2566 ยิ่งส่งผลดีต่อสัดส่วนรายได้ของธุรกิจค้าส่งของบริษัท
นายสง่า กล่าวอีกว่า บริษัทมุ่งเพิ่มยอดขายจากช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยมีแผนคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสมสำหรับช่องทางการขายออนไลน์ให้มากขึ้น รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่องทางการขายออนไลน์ในงวด 9 เดือนแรกมีอัตราการเติบโตเป็นเลขสองหลัก ขณะที่ยอดขายจากสาขาเดิมมีอัตราเติบโต (SSSG) ที่ดีถึง 23% พร้อมตั้งเป้ารักษา SSSG ในปี 2566 โต 2 หลัก
สำหรับผลการดำเนินการในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ฮาโลวีน คริสต์มาส ปีใหม่ และถือเป็นช่วง High Season ของการท่องเที่ยว จึงได้พิจารณาปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ใหม่ปี 66 ที่จะสามารถเติบโต 30% จากเดิมที่ตั้งไว้ 20% อย่างไรก็ตาม ธุรกิจค้าปลีกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าไลฟ์สไตล์ซึ่งมีการเติบโตตามความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น บริษัทจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภค และยังช่วยส่งเสริมให้เกิดรายได้อย่างต่อเนื่องอีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 118 สาขา (ณ สิ้นไตรมาส 3/2566) โดยแบ่งเป็นค้าปลีก 114 สาขา และค้าส่ง 4 สาขา ครอบคลุม 45 จังหวัด นอกจากนี้ เตรียมเปิดร้าน Moshi Moshi สาขาใหม่อีกกว่า 10 สาขาในไตรมาส 4/66 ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลและพื้นที่ต่างจังหวัด เช่น The Mall บางกะปิ, The Mall บางแค เป็นต้น และการขยายสาขาของร้าน Garlic เพิ่มอีก 2 สาขา นอกจากนี้ ยังมีแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่ การเพิ่มสินค้า Category ใหม่อย่าง Jewel Accessories และออกผลิตภัณฑ์ Collectionลิขสิทธิ์ใหม่จากค่ายดังประเทศญี่ปุ่นอย่าง Sanrio รวม 3 คาแรคเตอร์ใหม่ Cinnamoroll, Gudetama และ My Melody เพิ่มความน่ารัก หลากหลายให้กับร้านโมชิ โมชิ เชิญชวนลูกค้ามาช้อปเพลินๆ ได้เลย