SET100 โดนสาดไม่เลี้ยง

วานนี้เป็นอีกครั้งที่บรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจให้นักลงทุนไล่หุ้น “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะเอาข่าวดีอะไรมาโปรยให้นักลงทุนรู้สึกชื่นใจ


วานนี้เป็นอีกครั้งที่บรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจให้นักลงทุนไล่หุ้น “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะเอาข่าวดีอะไรมาโปรยให้นักลงทุนรู้สึกชื่นใจ เลยถือโอกาสเม้าท์ถึงหุ้นที่โดนถล่มไม่ยั้ง ทั้งที่ผลงานก็ไม่ได้ขี้เหร่ แถมราคาหุ้นบางตัวก็รับข่าวร้ายไปเต็มที่แล้ว แต่ไม่วายถูกขายแบบไม่ดูดำดูดีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความมั่นใจในการลงทุนมันเหือดหายไปหมดแล้ว จึงไม่อยากถือหุ้นต่อไปมากกว่ากระมัง!

ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,387.13 จุด ลบไป 2.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.61 หมื่นล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยไม่ดีเอาเสียเลย! และอย่าได้ดีใจเกินหน้าเกินตาที่เห็นดัชนีมีช่วงลบลดลง เพราะเที่ยวก่อนก็เพิ่งมาแนวนี้เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็โดนถล่มไม่เลี้ยงแบบไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่เรียงหน้ากระดานโดนทุบไม่เลี้ยงนั้น..น่าเห็นใจเหลือหลายนะแม่!

ขนาดในรายของ BDMS พยายามรักษาทรงเป็นเวลานาน แต่วานนี้ดันตบะแตกเอาดื้อ ๆ จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ เมื่อหุ้นหลุดแนวรับที่เคยเกาะไว้อย่างเหนียวแน่น ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 25.25 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 5.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.22 พันล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 1 ปี 3 เดือนแบบนี้..มันอนุมานได้ทันทีว่า นักเล่นมองหุ้นตัวนี้จะมีปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไร จึงต้องรีบลดพอร์ตอย่างเร่งด่วนจ้า

เช่นเดียวกับในรายของ BLA ซึ่งถูกรินขายแบบไม่ปรานี จนราคาหุ้นทำโลว์แล้วโลว์อีก และไม่มีทีท่าจะหยุดลงเมื่อไหร่? เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องนั่งคิดหลายตลบว่า อิหยังวะ! เพราะการลงมาปิดที่ระดับ 19.50 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 3.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 127 ล้านบาท มันเป็นการเทรดบน PE 14 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ถูกมาก ๆ สำหรับหุ้นที่ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอนะตัวเอง

อีกรายที่ผลงานไม่ปังเหมือนที่ผ่านมา เลยถูกขายทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น CHG ก่อนใครเพื่อน เพราะเมื่อนั่งดีดลูกคิดคร่าว ๆ มันทำให้เชื่อว่า กำไรปีนี้จะลดลงครึ่งหนึ่งจากปีก่อน วานนี้เลยเป็นวันที่สองของการถล่มขายอย่างหนัก และการที่หุ้นลงมาปิดที่ระดับ 2.84 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 8.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 703 ล้านบาท ก็เป็นการย้ำเตือนว่า ยังมีโอกาสลงต่อสูงจ้า!

ในเมื่อบรรดาผู้เล่นต่างกังวลกับผลงานที่ต่ำกว่ามาตรฐาน “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่เจ้าพ่อคอมพิวเตอร์อย่าง COM7 จะถูกถล่มขายแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง หลังตัวเลขกำไรไตรมาส 3 ลดลง 15% แถมเหตุผลที่ทำให้กำไรลดก็เกี่ยวข้องกับการปิดสาขาเพื่อปรับปรุง และมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นตัวชี้ว่า บริษัทเข้าสู่ยุคถดถอยเต็มตัว และเมื่อดูสภาพเศรษฐกิจของประเทศควบคู่ก็จะเห็นว่า การยืนปิดที่ระดับ 21.80 บาท ลบไป 4.20 บาท หรือลงไป 16.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.60 พันล้านบาท ไม่ใช่ก้นเหวของการลงเที่ยวนี้น่ะซี

ขนาดแบงก์สีฟ้า KTB มีของดีพกมาเต็มกระเป๋า ยังกลายเป็นหุ้นที่ถูกรินขายไม่ยั้ง “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะเว้าอะไรให้ฟัง เพราะอาการที่ซึมลงเรื่อย ๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 18.60 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 800 ล้านบาท พร้อมกับทำดับเบิ้ลบอททอม และยังเป็นการทำราคาต่ำสุดในรอบ 6 เดือนครึ่งในคราวเดียวกัน มันเป็นเรื่องที่เดี๊ยนตีความไม่ถูกเลยจริง ๆ พับผ่าสิ!

เหมือนกับในรายของ STEC ซึ่งมีทั้งประเด็นหุ้นการเมืองแถวหน้า และเรื่องอัดงบลงทุนขนาดใหญ่เป็นตัวชูโรง แต่วันนี้กลับไม่หลงเหลือสภาพความยิ่งใหญ่ให้เห็น แถมวอลุ่มในช่วงหลัง ๆ ก็เหือดแห้งเหลือเกิน “โมนิก้า” ถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 8.35 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30 ล้านบาท มันเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า อย่าไปยุ่งกับหุ้นตัวนี้ดีกว่า เพราะยังไม่ใช่วันของเขา..ไม่เชื่อลองถาม “พี่หวิน” ดูก็ได้..อิอิอิ

ตบท้ายกันที่การตรวจสอบภายในของ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี เพื่อความกระจ่างในเรื่องก๊วนแชร์ปั่นหุ้น PSP กันดีกว่า! เพราะข่าวล่ามาแรงจากพรายกระซิบยืนยันว่า กระบวนการจัดสรรหุ้นโปร่งใสทุกขั้นตอน และเรื่องนี้น่าจะเป็นการแอบอ้างของก๊วนเด็กอินเตอร์มากกว่า “โมนิก้า” จึงต้องออกมาบอกความจริงให้สังคมรับรู้ เพื่อจะได้รู้เท่าทันเกมหุ้นที่นับวันจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ..รู้แล้วบอกต่อด้วยนะจ๊ะ

Back to top button