SABINA โชว์กำไร Q3 แตะ 119 ล้าน! ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15%
SABINA รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 118.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% นับเป็นกำไรรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จับตาไตรมาส 4/66 ลุ้นเมกะแคมเปญ 11.11 ดันรายได้ทั้งปีโตเกินเป้า
นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในภายใต้ชื่อแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 118.9 ล้านบาท และเป็นการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2565 คิดเป็น 18.6% เป็นกำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากที่บริษัททำได้ที่ระดับ 117 ล้านบาท ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และในไตรมาสแรกของปี 2566 รายได้รวมในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 อยู่ที่ 852.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วคิดเป็น 9.1% ขณะที่รายได้รวมในไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 852.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญมาจากยอดขายในช่องทางออนไลน์ (NSR : Non Store Retailing) ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 ที่เติบโตถึง 56.7% ขณะที่ช่องทางค้าปลีก ซึ่งเป็นช่องทางขายในประเทศยังคงมีการเติบโต แต่อาจจะมีการเติบโตลดลง 1.7% เมื่อเที่ยบกับปีที่แล้ว เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนช่องทางขายตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป ถึงแม้ว่าปริมาณนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในลักษณะที่ค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้การบริโภคในประเทศชะลอตัว ส่วนช่องทางรับจ้างผลิต ยังคงชะลอตัวลงตามภาพรวมของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของลูกค้าในยุโรป ซึ่งโดยรวมแล้วธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทมีรายได้รวม 2,579.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% และมีกำไรสุทธิ 349.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 12.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565
“กำไรสุทธิรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากสะท้อนว่า เราสามารถกลับมามีผลงานได้ดีกว่าช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้ว ยังสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีคุณภาพและเหมาะสม โดยเฉพาะการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่กระบวนการผลิต รวมถึงการขาย ที่เน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์ (NSR) รวมถึงกลยุทธ์การขายแบบไม่ต้องสต็อกสินค้าหน้าร้านจำนวนมาก แต่ใช้กระบวนการสั่งซื้อและจัดส่งที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี และรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ตามเป้าหมาย โดยจะเห็นได้จากอัตรากำไรสุทธิ (NPM) ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ซึ่งอยู่ที่ 13.9%” นางสาวดวงดาว กล่าว
ขณะเดียวกันในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 บริษัทยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมหกรรมช้อปปิ้งช่วง 9.9 ที่สามารถครองอันดับหนึ่งแบรนด์ในกลุ่มสินค้าแฟชั่น ด้วยการสร้างยอดขายสูงสุดบนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ชั้นนำ ทั้งในช้อปปี้และลาซาด้า การันตีด้วยรางวัล Consumer Choice จาก Shopee Partner Awards 2023 และรางวัลแบรนด์ที่มียอดขายโดดเด่น LazMall Local Superstar Award จากลาซาด้า กรุ๊ป ในงาน LazMall Brands Future Forum (BFF) 2023 ตอกย้ำความสำเร็จในการขายผ่านช่องออนไลน์ของ SABINA ได้เป็นอย่างดี
นางสาวดวงดาว กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 10-15% ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นไปได้อย่างแน่นอน และมีโอกาสที่จะเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยบรรยากาศที่เอื้ออำนวยโดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ที่ยังมีเมกะแคมเปญ 11.11 ซึ่งเป็นแคมเปญใหญ่ในไตรมาสสุดท้ายของปีรออยู่ และเชื่อว่า “ซาบีน่า” จะเป็นแบรนด์ในกลุ่มแฟชั่นที่ทำยอดขายได้สูงสุดอีกครั้ง
อีกทั้ง ในปลายปีนี้ SABINA ยังมีคอลเลคชั่นใหม่ที่รอเปิดตัว ซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ที่จะออกมารองรับกับช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยของภาครัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญในช่วงปลายปีอีกด้วย