TAKUNI โชว์งบ Q3 กวาดรายได้ 873 ล้านบาท กำไรทะลุ 61 ล้าน โต 15%

TAKUNI โชว์งบไตรมาส 3/66 โกยรายได้แตะ 873 ล้านบาท กำไรทะลุ 61 ล้านบาท เติบโต 14.65% ดันผลงานงวด 9 เดือนแรกกำไรแตะ 139 ล้านบาท กางแผนปีหน้าร่วมมือพันธมิตรใน-ต่างประเทศ ลุยผลิต-จำหน่ายรถอีวี


ดร.กฤตพงศ์ อรชัยพันธ์ลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566  บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้น 127.27 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 14.60%  ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 112.57 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุนการให้บริการด้วย ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 61.12 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 14.65% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 53.31 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการบริการ จำนวน 873.13 ล้านบาท ลดลง  69.49 ล้านบาท คิดเป็น 7.37% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกับปีก่อนที่มีรายได้จากการบริการเป็น 946.2 ล้านบาท

การเติบโตของรายได้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ และบริษัทฯ รับรู้ได้รายได้ของบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจจัดสรรทรัพยากรบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 60.2 ล้านบาท ซึ่งเราได้ลงทุนไปเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ขณะที่รายได้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งทางบก และทดสอบความปลอดภัยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นความต่อเนื่องของกลยุทธ์เชิงรุกทางการตลาด ดร.กฤตพงศ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับแก๊ส ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายแก๊ส หรือการจำหน่ายอุปกรณ์ติดตั้งระบบแก๊สปรับตัวลดลงไปตามการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่เปลี่ยนจากผู้ค้ามาตรา 7 ไปเป็นมาตรา 10 โดยหันไปรุกธุรกิจพลังงานสะอาดมากขึ้น โดยเฉพาะการร่วมมือกับพันธมิตรในการผลิตและจัดจำหน่ายรถไฟฟ้า (EV) ทั้งรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะ รถยนต์พาณิชย์ และรถบัส

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2566 มีรายได้จากการให้บริการ 2,843.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.90% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,790.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 139.93 ล้านบาท ลดลง 19.78% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 174.43  ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ โดยรับรู้ได้รายได้ของบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจจัดสรรทรัพยากรบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 180.47 ล้านบาท อันเป็นธุรกิจที่บริษัทฯ เข้าลงทุนในเดือนธันวาคม 2565

นอกจากนี้รายได้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขนส่งทางบก และทดสอบความปลอดภัยปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นความต่อเนื่องของกลยุทธ์เชิงรุกทางการตลาด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปี เท่ากับ 3.14% 55.73% และ 17.41% ตามลำดับ

สำหรับแผนการดำเนินงานหรือยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในอนาคต บริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดมากขึ้น ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่กำลังมาแรง และเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้การสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจรถไฟฟ้า ซึ่งแผนงานในปีหน้าบริษัทฯ จะมีการร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งในประเทศและพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อร่วมมือในการผลิตและจัดจำหน่ายรถไฟฟ้า โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจปัจจุบันซึ่งยังถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และเติบโตดี ทั้งธุรกิจทดสอบความปลอดภัย และธุรกิจจัดสรรทรัพยากรบุคคล ยังคงเดินหน้าขยายตัวต่อเนื่องควบคู่กันไป รวมถึงการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มเติม

Back to top button