“พาณิชย์” มองส่งออกไทยปี 67 โต 2% พร้อมเร่งผลักดัน “ซอฟต์พาวเวอร์”
กระทรวงพาณิชย์ ประเมินส่งออกไทย ปี 67 ขยายตัว 2% หลังคาดปีนี้ติดลบไม่เกิน 1% เร่งผลักดันนโยบาย 380 กิจกรรม พร้อมร่วมมือ “การบินไทย-ททท.” หนุนซอฟต์พาวเวอร์ ดันส่งออกไทยปีหน้าโตตามเป้า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ทูตพาณิชย์ และภาคเอกชน เพื่อหารือแผนเร่งรัดการส่งออกและการค้าชายแดน Quick Win 100 วัน และ 1 ปี ทูตพาณิชย์ของไทยใน 58 แห่งทั่วโลก ได้ประเมินเป้าหมายการส่งออกของไทยปี 2567 ในเบื้องต้นไว้ที่ 1.99% ที่มูลค่าการส่งออกราว 2.87 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ภาคเอกชนประเมินว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 1-2% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกัน
สำหรับตัวเลขเป้าหมายการส่งออกปี 2567 ที่ชัดเจนนั้น คงต้องรอสรุปตัวเลขการส่งออกของปี 2566 จึงจะสามารถประกาศเป้าหมายส่งออกในปีหน้าอย่างเป็นทางการได้
“การประเมินจากทูตพาณิชย์ คาดการณ์มูลค่าจะขยายตัวที่ 1.99% จากปี 2566 คิดเป็นมูลค่า 287,754 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 10 ล้านล้านบาท ขณะที่ภาคเอกชน ประเมินในฝั่งการผลิต ประเมินว่าจะขยายตัว 1-2% ซึ่งสอดคล้องกัน แต่ตัวเลขที่ชัดเจน จะต้องรอผลการส่งออกปี 2566 ก่อน ถึงจะประกาศเป้าหมายการส่งออกของปี 2567 อย่างเป็นทางการได้” นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนการส่งออกไทยในปี 2566 ประเมินว่า ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังขยายตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่การส่งออกในช่วง 2 เดือนล่าสุด คือ เดือนส.ค. เพิ่ม 2.6% เดือนก.ย. เพิ่ม 2.1% ทำให้การส่งออกทั้งปี 2566 จะติดลบน้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยเชื่อว่าจะติดลบไม่เกิน 1%
โดยการผลักดันการส่งออก ที่ได้ดำเนินการภายใต้นโยบายปรับส่งออกจากลบเป็นบวก ในช่วง 100 วัน ได้ดำเนินการรวม 73 กิจกรรม ซึ่งหวังว่าสามารถสร้างมูลค่าการส่งออก 12,400 ล้านบาท แต่เกิดผลจริง 25,424.75 ล้านบาท และยังได้ทำแผนล่วงหน้าสำหรับระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า เพื่อผลักดันการส่งออกในปี 2567 โดยกำหนดไว้ทั้งสิ้น 380 กิจกรรม ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการส่งออก 65,701 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดกลยุทธ์การผลักดันการส่งออก 5 ด้าน ได้แก่ 1.จะเปิดประตูโอกาสทางการค้าเชิงรุกสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น สหรัฐฯ จีน ตะวันออกกลาง ฯลฯ ควบคู่กับการรักษาตลาดเดิม 2.กำหนดให้ทูตพาณิชย์ทำงานเชิงรุก และบูรณาการทำงานกับพาณิชย์จังหวัดให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อเชื่อมโยงสินค้าจากท้องถิ่นสู่ตลาดโลก 3.การส่งเสริมการส่งออกซอฟต์พาวเวอร์ 4.การปรับปรุงการทำงานของภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล 5.การส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ด้วยการส่งเสริมการค้าออนไลน์
ขณะที่การค้าชายแดน มีแผนที่จะยกระดับด่าน เปิดจุดผ่านแดนที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้น และการจัดตั้งศูนย์บริการการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียว (OSS) เพิ่มเติม เช่น สระแก้ว จันทบุรี หลังจากที่ได้นำร่องเปิดไปแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, ตาก, ตราด, สงขลา, หนองคาย, นครพนม และมุกดาหาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ส่งออก
รวมถึงยังได้ร่วมมือกับ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเสริมการตลาดสินค้า บริการ และซอฟต์พาวเวอร์ โดยการบินไทย จะเป็นโชว์รูมสินค้าไทยบนเครื่องบิน เพราะจะนำสินค้าไทยไปให้บริการบนเครื่องบิน
ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า การส่งออกของไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และจากนี้จะไม่เห็นตัวเลขติดลบอีก หากไม่มีสถานการณ์อะไรที่รุนแรงมากกว่าในปัจจุบัน เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลดีต่อการส่งออกไทยมาก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการขยายตัวของส่งออกไทย นับจากเดือนต.ค.-ธ.ค.66 จะเติบโตไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปี 2565 ส่วนปี 2567 ภาคเอกชนคาดจะขยายตัวเป็นบวกได้ไม่ต่ำกว่า 1-2% โดยสินค้าที่ยังขยายตัวได้ดี เช่น ผลไม้ ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ