SISB บวก 4% ลุ้นกำไร Q4 “นิวไฮ” รับยอดนักเรียน-ขยายสาขาใหม่ โบรกแนะ “ซื้อ” เป้าสูง 42 บ.
SISIB บวก 4% ลุ้นกำไรไตรมาส 4/66 พุ่ง “นิวไฮ” รับรายได้นักเรียนไทย-ต่างชาติเพิ่ม พ่วงปรับค่าธรรมเนียมการศึกษาและลุยขยายสาขาเดิม-ใหม่หนุน ฟากโบรกแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสูงสุด 42 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ย. 66) ราคาหุ้น บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ณ เวลา 11:17 น. อยู่ที่ระดับ 32.00 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 4.07% สูงสุดที่ระดับ 32.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 31.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 53.29 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่า หลังจากการายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ของ SISB มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าประเมินการเดิมไว้ที่ 5% จากค่าใช้จ่ายในบริหารที่ต่ำกว่าคาดการณ์
ขณะที่รายได้ในไตรมาส 3/2566 เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 40% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยแตะระดับสูงสุด 478 ล้านบาท หลักๆมาจากการเปิดโรงเรียนแห่งใหม่ และจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นค่าเทอมการศึกษประจำปีในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยจำนวนนักเรียนทั้งหมด ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 4,125 คน (สัญชาติไทย 73% ต่างชาติ 27%) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 731 คนจากไตรมาสก่อน อีกทั้งสาขานนทบุรีมีความต้องการ (demand) ที่แข็งแกร่ง จากจำนวนนักเรียน 262 คนตั้งแต่เทอมแรก ส่วนที่สาขาระยองยังต้องใช้เวลา โดยมีจำนวนนักเรียนในไตรมาสนี้ 96 คน รวมถึงอัตราส่วนนักเรียนต่อครูซึ่งเป็นอัตราส่วนสะท้อนประสิทธิภาพของโรงเรียน ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 7.92 ลดลงจาก 8.26 ในไตรมาสก่อนหน้าหากตัด 2 โรงเรียนใหม่ออก อัตราส่วนนักเรียนต่อครูของโรงเรียนเดิมอยู่ที่ 8.33 ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้น
สำหรับกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 72% ของคาดการณ์กำไรทั้งปีที่ 613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/2566 เบื้องต้นที่ 190-200 ล้านบาท โดยยังยืนยันคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 42 บาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ว่า คาดการณ์แนวโน้มกำไรในไตรมาส 4/2566 จะทำสถิติสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินธุรกิจ จากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของสาขาเดิมและสาขาใหม่ รวมถึงไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษและบันทึกขาดทุนของสาขาใหม่ลดลง โดยยังคงประมาณการเดิม คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 624 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และกำไรปี 2567 อยู่ที่ 815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง
โดยได้รับจากปัจจัยบวกคือ 1) ผู้ปกครองปัจจุบันที่ใส่ใจต่อการศึกษาให้บุตรเรียนหลักสูตรภาษาอินเตอร์มากขึ้น 2) นโยบายของประเทศจีนที่ลดความสำคัญของภาษาอังกฤษส่งผลมาเรียนต่อประเทศไทยมากขึ้น โดยค่าเทอมปี 2566 ประเมินว่าเพิ่มขึ้น 25% จากปีที่ผ่านมาฐานต่ำจากการเรียน hybrid และโครงสร้างนักเรียนในระดับปฐมและมัธยมที่เพิ่มขึ้นที่มีค่าเทอมสูงกว่า และปีถัดไปคาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 7% จากการขึ้นระดับชั้นทุก 2 ปี ส่งผลแนวโน้มจำนวนนักเรียนปี 2566 เพิ่มขึ้น 986 คนและในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 420 คน จากสาขาเดิม 4 สาขาและการเปิดใหม่ 2 สาขา ที่นนทบุรี และระยอง
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ คงคำแนะนำ “ซื้อ” จากราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับลดลงสะท้อนผลกระทบระยะสั้นจากการเปิดสาขาใหม่และคาดผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 เติบโตทำนิวไฮ โดยปรับราคาเป้าหมาย 39.50 บาท มีอัพไซด์ (upside) 35% จากแนวโน้มผลดำเนินงานเติบโตและการเปิดสาขาใหม่นนทบุรีและระยอง และแผนขยายสาขาเดิมรองรับนักเรียนมัธยมเพิ่มขึ้น