A ประสิทธิภาพดีกว่าเก่า

พัฒนาการในส่วนผลประกอบการของ A เริ่มมีประสิทธิภาพมากกว่าเก่า ด้วยการเติบโตที่มาจากการขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และบริษัทคงเน้นการขยายโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับเน้นการโอนโครงการต่างๆให้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้รวดเร็ว และสามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทให้มากขึ้น


–คุณค่าบริษัท–

 

พัฒนาการในส่วนผลประกอบการของ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ เริ่มมีประสิทธิภาพมากกว่าเก่า ด้วยการเติบโตที่มาจากการขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และบริษัทคงเน้นการขยายโครงการแนวราบเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับเน้นการโอนโครงการต่างๆให้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้เข้ามาได้รวดเร็ว และสามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทให้มากขึ้น

ขณะที่ปัจจุบันมีมูลค่าโครงการคอนมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนมีมูลค่า 4.8 พันล้านบาท เป็นโครงการคอนมิเนียมที่อ่อนนุช, บางนา และอโศก-ดินแดง โดยจะมีการทยอยโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้ 80 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยโอนในปี 59 และส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของโครงการคอนโดมิเนียมในปีหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 30-40% จากปีนี้ 20% ส่วนสัดส่วนรายได้โครงการแนวราบจะอยู่ที่ 70% ในปี 2559 จากปีนี้ที่ 80% อีกทั้งบริษัทยังมีสต๊อกของโครงการแนวราบอีกราว 1 หมื่นล้านบาท

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 มองว่าจะดีขึ้นอีก  เนื่องจากไม่มีซัพพลายใหม่ๆในตลาดเข้ามาเพิ่มมากเพราะไม่มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หน้าใหม่เข้ามาเล่นในตลาด ซึ่งทำให้การแข่งขันมีความรุนแรงลดลง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศในปีหน้าคาดว่าจะดีขึ้นจากปีนี้ ส่งผลต่อความมั่นใจของประชาชนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดภาวะการชะลอตัวของการตัดสินใจซื้อมากขึ้นได้

สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาบริษัทมีประสิทธิภาพในส่วนของการทำรายได้และกำไรสุทธิได้เป็นอย่างดี สามารถทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558  บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,979.75 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 574.88 ล้านบาท ผลจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 98.80 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 10.21 ล้านบาท หรือ 0.01 บาทต่อหุ้น

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่  4,085.45 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,628.75 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 198.79 ล้านบาท หรือ 0.20 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 26.82 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น โดยในปีนี้บริษัทมีรายได้พิเศษเข้ามาจากการขายที่ดินย่านเกษตร-นวมินทร์ 50 ไร่ มูลค่า 1.3 พันล้านบาท ซึ่งได้มีการบันทึกไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินในในกานลงทุน เห็นได้ว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังมีมาก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 11,095.33 ล้านบาท ขณะที่มีหนี้สินหมุนเวียน 4,153.77 ล้านบาท และเมื่อนำมาเปรียบเทียบค่า CURRENT RATIO ได้ที่ระดับ 2.68 เท่า แสดงว่า บริษัทยังมีความคล่องตัวทางการเงินพอสมควร

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน 1,158.68 ล้านบาท และหุ้นกู้ 4,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีหนี้สินรวมสูงถึง 9,473.98  ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 3,072.42 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 3.09 เท่า ถือว่าบริษัทมีหนี้สินก็จริง แต่เป็นการกู้ระยะยาวเพื่อมาขยายธุรกิจอสังหาฯ ประกอบกับบริษัทยังมีกำไรอยู่

กลยุทธ์การปรับงานก่อสร้างโครงการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ A มีการเติบโตมากขึ้นมากกว่าช่วงที่ผ่าน…

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี 320,897,000 หุ้น 32.74%

2.นางพัชรี พรเจริญชัยศิลป์ 191,859,100 หุ้น 19.58%

3.นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี 109,851,096 หุ้น 11.21%

4.PROGRESSIVE OPULENT HOLDING (SINGAPORE) PTE. LTD. 60,000,000 หุ้น 6.12%

5.นางพัชรนันท์ ภิญโญชัยอนันต์ 44,523,000 หุ้น 4.54%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย วิศิษฎ์ เลาหพูนรังสี ประธานกรรมการ

2.นาย วิศิษฎ์ เลาหพูนรังสี กรรมการผู้จัดการ

3.นาง นิภาพัฒน์ โรมรัตนพันธ์ กรรมการ

4.นาย ทัน เทียนสุวรรณ กรรมการ

5.นาย วิวัฒน์ เลาหพูนรังสี กรรมการ

Back to top button