“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ วิตก “เฟด” ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกรอบ
“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดแกว่งตัวในแดนลบ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ หลัง “เฟด” ประกาศมีแนวโน้มคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่สูงอีกรอบ
ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ (22 พ.ย. 66) เปิดภาคเช้าเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลงเมื่อวันอังคาร (21 พ.ย. 66) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ต.ค. 66 -1 พ.ย.66 ระบุว่ากรรมการ (เฟด) มีความเห็นตรงกันว่าและควรจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง และอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว เปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,182.99 จุด ลดลง 171.15 จุด หรือ -0.51% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,736.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด หรือ +0.01% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,060.50 จุด ลดลง 7.43 จุด หรือ -0.24%
ขณะที่กรรมการ (เฟด) มองการคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสมหากข้อมูลที่จะได้รับในวันข้างหน้าบ่งชี้ว่า ภารกิจในการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมายทั้งนี้ (เฟด) ระบุในรายงานการประชุมซึ่งเผยแพร่เมื่อวานนี้ (21 พ.ย.66) ที่ผ่านมา และถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในวันข้างหน้า
สำหรับรายงานการประชุมยังระบุด้วยว่าสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ (เฟด) ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่ามีความจำเป็นต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ส่วนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (21 พ.ย.66) ซึ่งตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีกหลังจากบริษัทค้าปลีกหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังและตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานการประชุมของ (เฟด)
ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,088.29 จุด ลดลง 62.75 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,538.19 จุด ลดลง 9.19 จุด หรือ -0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,199.98 จุด ลดลง 84.55 จุด หรือ -0.59%