พาราสาวะถี

วันนี้หลายคนคงใจจดจ่อที่จะรอฟัง เศรษฐา แถลงข่าวใหญ่การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จะจบครบในคราวเดียว หรือเป็นเพียงแค่พิธีกรรมเพื่อนำไปสู่กระบวนการที่ต้องใช้เวลากว่าปัญหาของประชาชนที่เดือดร้อนจะได้รับการแก้ไข


วันนี้ (28 พฤศจิกายน) หลายคนคงใจจดจ่อที่จะรอฟัง เศรษฐา ทวีสิน แถลงข่าวใหญ่การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จะจบครบในคราวเดียว หรือเป็นเพียงแค่พิธีกรรมเพื่อนำไปสู่กระบวนการที่ต้องใช้เวลากว่าปัญหาของประชาชนที่เดือดร้อนจะได้รับการแก้ไข เห็นแอ็กชันของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว หากสอดประสานทำงานกันเป็นทีม เอาแค่เฉพาะพื้นที่เหมือนที่เคยบอกไป นายอำเภอกับผู้กำกับโรงพักแต่ละแห่ง เรียกเจ้าหนี้-ลูกหนี้มาคุย มาเคลียร์ รายไหนที่นายทุนได้เกินคุ้มแล้วก็น่าจะจบกันได้

คงไม่ได้มองแค่ว่าเจ้าหนี้หน้าเลือดเพียงอย่างเดียว ต้องมีการตรวจสอบประวัติฝั่งลูกหนี้ด้วยเช่นกัน จ่ายตรงจ่ายจนดอกเบี้ยเกินเงินต้นไปแล้ว หรือเหนียวหนี้ เจตนาที่จะไม่จ่าย ต้องว่ากันเป็นรายบุคคลไป แต่การใช้กลไกระดับท้องถิ่น ย่อส่วนตั้งแต่ระดับอำเภอลงไปในตำบล หมู่บ้าน หรือชุมชน น่าจะทำให้การขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาเห็นผลได้เร็ว เพราะทุกพื้นที่รู้อยู่แล้วใครเป็นใคร เว้นแต่มีนายทุนเงินกู้ต่างถิ่นไปทำมาหากินทำนาบนหลังคน นั่นก็อีกเรื่อง แต่การยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ กุมความยุติธรรมให้แน่น จึงไม่น่ามีปัญหาในการดำเนินการ

เหมือนอย่างที่ ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง แจง หน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะเป็นฝ่ายปกครอง เช่น กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดประชาชนในทุกพื้นที่มากที่สุด ตรงนี้เป็นการยืนยันภาพของกระบวนการแก้ปัญหาที่ต้นตอ เมื่อหน่วยงานดังกล่าวสามารถเข้าไปปิดช่องปัญหาหนี้นอกระบบได้แล้ว ก็จะเป็นกระทรวงการคลังที่จะเข้าไปเสริมทำให้ลูกหนี้มีช่องทางในการเข้าถึงแหล่งทุนได้มากที่สุด

ตรงนี้แหละที่สำคัญ ที่ผ่านมามีการป้อนคำหวานจากรัฐบาลโดยเฉพาะกว่า 9 ปีที่ผ่านมา จะทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายและมากที่สุด สุดท้ายก็ติดปัญหาในทางปฏิบัติ เอาแค่ที่ปลัดคลังยกตัวอย่าง ไม่ว่าจะธนาคารของรัฐหรือธนาคารพาณิชย์ที่จะเข้าไปช่วยลดหนี้ให้แก่ลูกหนี้ เงื่อนไขที่ว่าต้องประเมินสถานะของลูกหนี้ในปัจจุบัน เท่านี้ก็น่าจะผ่านด่านที่เป็นเพดานในการให้กู้ยืมของสถาบันการเงินเหล่านั้นได้ยากแล้ว เมื่อพิจารณามูลหนี้แล้วประเมินควบคู่กับสถานะของลูกหนี้ ส่วนใหญ่ผู้ที่ไปกู้นอกระบบก็น่าจะติดกฎ ระเบียบของแบงก์นั่นแหละ แบบนี้จะยอมปล่อยกู้ได้อย่างไร

ในภาวะเศรษฐกิจที่รัฐบาลก็ย้ำอยู่ตลอดว่าวิกฤตจำเป็นต้องกระตุ้นผ่านนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ถามว่า นำลูกหนี้ออกจากการเป็นหนี้นอกระบบแล้ว ในระบบจะสามารถรับคนเหล่านั้นเข้ามาดูแลต่อได้หรือไม่ ถ้าบอกว่าทำได้ภายใต้เงื่อนไขที่พิเศษสุด ๆ ความเสี่ยงที่จะตามมาใครเป็นผู้รับผิดชอบ นอกเหนือจากปุจฉาวิสัชนาเรื่องเศรษฐกิจวิกฤตหรือไม่ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว คงต้องแลกเปลี่ยนกันเรื่องเงื่อนไขการเข้าถึงทุนของคนตัวเล็ก ประชาชนตาดำ ๆ ให้ง่ายขึ้นด้วยหรือไม่

การแถลงข่าวใหญ่เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในวันนี้ และจะตามมาด้วยหนี้ในระบบวันที่ 12 ธันวาคมนั้น เป็นการแสดงความตั้งใจของเศรษฐาที่จะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชน ซึ่งทุกคนก็หวังว่าจะสามารถเดินหน้าได้ แต่เห็นกระบวนการที่เกิดขึ้นกับดิจิทัลวอลเล็ต และขบวนการที่เคลื่อนไหวคัดค้านแล้ว โจทย์แต่ละโจทย์สำหรับนายกฯ และพรรคแกนนำจากเพื่อไทยถือว่าหิน จะถูกเตะตัดขาตลอดเวลา โดยที่ผู้ลงมือก็หวังว่าต้องมีบางจังหวะที่ทำให้หัวทิ่มหกคะเมนตีลังกาได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากวิธีการทำงานของเศรษฐาและเพื่อไทยแล้ว จะเห็นได้ว่ามีการตั้งการ์ดระดับหนึ่ง รอบคอบขึ้น ไม่บุ่มบ่ามเหมือนยุคไทยรักไทย พลังประชาชน หรือเพื่อไทยยุคต้น เหตุผลส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคะแนนเสียงของพรรคแกนนำรัฐบาลไม่ได้มากกว่าพรรคร่วมอย่างมีนัยสำคัญเหมือนอดีต จึงไม่สามารถจะใช้วิธีการแบบวันแมนโชว์เหมือนในอดีตได้อีก ขณะเดียวกัน ต่างก็รู้ดีว่าแม้จะมีสัญญาณตอบรับในการพลิกขั้วจากชนชั้นอีลิท แต่ก็ยังมีพวกสุดโต่งที่จ้องจะคว่ำอยู่ตลอดเช่นกัน

เรื่องทางการเมืองบรรดามือวางแผน กุนซือของเพื่อไทยอ่านเกมกันได้ ประกอบกับมีนายใหญ่คอยให้คำปรึกษา โดยที่มีการตกผลึกกันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แต่ละพรรคที่ดึงมาร่วมงานนั้นจะต้องทำงานกันเป็นทีมเวิร์คให้ได้ เป็นความโชคดีที่ตัวเลือกนายกฯ ของพรรคเป็นคนที่พร้อมจะรับฟังจากทุกฝ่าย เป็นประเภทยอมงอไม่ยอมหัก จึงทำให้การตัดสินใจในแต่ละเรื่องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง และผ่านความเห็นชอบร่วมในนามพรรครัฐบาลทั้งหมด

แม้อาจจะมีบางพรรคที่หัวหน้ายังเหมือนจะทำใจยอมรับกับผลทางการเมืองที่ตัวเองหวังไว้ไม่ได้ จนถึงนาทีนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ แต่ต้องยอมรับอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง การที่สมุนมือขวาได้มีเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ มีบทบาทได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ เป็นอย่างดี มิหนำซ้ำ น้องชายร่วมสายเลือดก็มีตำแหน่งเสนาบดีที่ใหญ่โต จึงพอจะช่วยให้ใจชื้นขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง อย่างน้อยทำให้มีกำลังทรัพย์จะดูแลลูกพรรคกันได้ยาว ๆ

มากไปกว่าความเป็นปึกแผ่นของพรรคขั้วอำนาจเก่าที่มาจับมือกับเพื่อไทยตั้งรัฐบาล คงเป็นการถีบหัวส่งอดีตพรรคร่วมให้ไปเป็นฝ่ายค้านที่มองไม่เห็นอนาคต ท่ามกลางความสามัคคีอุปโลกน์ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเคยกล่าวไว้ในช่วงถือครองอำนาจ ที่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลกลมเกลียวกันดีนั้น แท้จริงแล้วมีรอยปริแยกอยู่ตลอดเวลา ยิ่งปลายสมัยยิ่งเห็นภาพชัด บทสัมภาษณ์ของ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอกย้ำว่า บางพรรคที่เคยร่วมงานกันมุ่งแต่จะเอาดีเข้าตัวโยนชั่วให้เพื่อน สุดท้ายตัวเองก็ไปไม่รอด

เวลานี้ก็กำลังใช้วิธีทางการเมืองแบบเดิม ๆ คือ สร้างวาทกรรมและโจมตีรัฐบาลทั้งตัวเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ภายในพรรคยังไร้ความเป็นเอกภาพ หาหัวที่จะนำพายังไม่ได้ จึงเป็นเรื่องง่ายของฝ่ายตรงข้ามที่จะหยิบยกมาเป็นประเด็นโต้กลับ แต่เพื่อไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเดือนหน้าจะกลับมาเปิดประชุมสภาแล้ว จึงต้องเตรียมความพร้อมให้ดี โดยเฉพาะเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งว่ากันว่า พรรคฝ่ายค้านอาจไม่ใช่ปัญหา แต่พวกลากตั้งนี่แหละที่จะเป็นตัวถ่วง

Back to top button