โบรกแนะ 8 หุ้นเด่น! Outperform ตลาดSET ช่วงบ่ายแกว่งแคบ-วอลุ่มเบาบาง

SET เช้านี้ปิดบวกเล็กน้อย ขณะที่ มูลค่าซื้อขายเบาบาง ซึ่งเป็นปกติของการเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ โดยมองตลาดน่าจะกลับมาคึกคักได้หลังปีใหม่ พร้อมจับตาดูมาตรการเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่วนแนวโน้มช่วงบ่าย ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบโดยให้แนวรับ 1,270 จุด แนวต้าน 1,300 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (29 ธ.ค.) แกว่งแคบ โดยการซื้อขายเบาบาง ซึ่งเป็นปกติของการเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ พร้อมจับตาดูมาตรการเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังปีใหม่

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย คาดดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,300 จุด ขณะที่ แนะนำ “Selective Buy” HMPRO-ROBINS-BEAUTY-CENTEL-SPA-PTTGC-BLA และ TISCO

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ค่อนข้างเงียบ วอลุ่มเบาบาง ซึ่งเป็นปกติที่เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว และตลาดน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังปีใหม่ อย่างไรก็ตามมองภาพรวมตลาดยังทรงตัว เช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค เนื่องจากเป็นช่วงปลายปี ที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะพักการซื้อขาย 

ขณะที่ในช่วงเช้ามีการประกาศตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนพ.ย.ที่ยังติดลบ สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อ คือ มาตรการเศรษฐกิจที่รัฐบาลจะออกมาเพิ่มเติมในปี 59

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ พร้อมให้แนวรับ 1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,300 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 29 ธ.ค.) คาด SET แกว่งแคบ ด้วยปริมาณการซื้อขายน้อยก่อนหยุดยาวสิ้นปี ในกรอบ 1,270-1,292 จุด โดย “Selective Buy” 1) หุ้นที่เป็นเป้าหมายในการซื้อของ LTF และ Window Dressing และ 2) ได้รับผลดีจากมาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาท มีแนวโน้ม Outperform ตลาดช่วงปลายปี อย่าง HMPRO-ROBINS-BEAUTY-CENTEL-SPA-PTTGC-BLA และ TISCO

ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” BEAUTY ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 6.20 บาท ราคาหุ้นจะแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม หลังสามารถทำ All Time High ได้อีกครั้ง แนวต้านระยะสั้น 6.00 บาท จาก 1) กำไรไตรมาส 4 ปี 58 มีแนวโน้มออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง +17% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 24% จากไตรมาสก่อนที่ 126 ล้านบาท ส่งผลกำไรทั้งปี 2015 เติบโต 32% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 398 ล้านบาท จากยอดขายต่อสาขาเดิมที่เติบโต 8% และการขยายสาขา 11%

2) เป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลดีจากมาตรการลดหย่อยภาษี 15,000 บาท ของรัฐบาล 3) การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มขึ้นของยอดขายให้กับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น (20% ของรายได้ เป็นรายได้จากการขายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยว) หนุนการเติบโตกำไรปี 2559-61 อีก 24% ต่อปี

4) มีแผนขยายการขายไปใน Modern Trade และตลาดส่งออกไปยังตะวันออกกลาง ฮ่องกง จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และมาเลเชีย 5) การเปิดศูนย์กระจายสินค้าใหม่ ในเดือน ม.ค. จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย และการบริหารต้นทุน

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 622.96 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 376.08 ล้านบาท ปิดที่ 3.24 บาท ลดลง 0.06 บาท

CSS มูลค่าการซื้อขาย 356.45 ล้านบาท ปิดที่ 4.94 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

COM7 มูลค่าการซื้อขาย 295.85 ล้านบาท ปิดที่ 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท

TKN มูลค่าการซื้อขาย 240.87 ล้านบาท ปิดที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button