คลังจ่อปรับเนื้อหามาตรการ “Easy E-Receipt” ลดหย่อนภาษี 5 หมื่น
กระทรวงการคลัง พร้อมปรับเนื้อหา “มาตรการ Easy E-Receipt” หลังที่ประชุมครม. เห็นชอบผ่านหลักเกณฑ์
วันที่ 6 ธ.ค. 66 รายงานข่าวจากระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังไม่ได้มีการเผยแพร่ข้อมูลรายละเอียดของมาตรการ Easy E-Receipt” (e-Refund เดิม) ซึ่งจะมีการลดหย่อนภาษีให้กับการใช้จ่ายซื้อสินค้า เนื่องจากขอนำกลับมาปรับรายละเอียดบางประเด็นเพิ่มเติม จึงยังไม่มีการแถลงในเรื่องนี้ แม้ว่าจะผ่านความเห็นชอบหลักการจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
โดยทีมโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบหลักการมาตรการ “Easy E-Receipt” (e-Refund เดิม) โครงการซื้อสินค้าและบริการ เบื้องต้นบุคคลธรรมดาและห้างร้านที่ไม่ใช่นิติบุคคลสามามารถนำค่าใช้จ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จากร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีมาหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้ประจำปี 67 ได้ โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ e-Tax Invoice และ/หรือ e-Receipt ของกรมสรรพากร รวมทั้งต้องใช้จ่ายในช่วง 1 ม.ค.-15 ก.พ.67
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการบริโภคในประเทศ สนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีให้ใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและการอ่าน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี และการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับรายจ่ายค่าซื้อสินค้าและบริการที่ได้นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ได้แก่
- ค่าหนังสือ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
- ค่าบริการหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
- ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน และต้องมี e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร
ไม่รวม ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ค่าซื้อยาสูบ ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์และเรือ ค่าน้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต และค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาว ซึ่งเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 ม.ค.67 หรือสิ้นสุดหลัง 15 ก.พ.67 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.ก็ตาม ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด.