Daily Focus-บล.ฟินันเซีย ไซรัส

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินแนวโน้มตลาดวันนี้ (7 ธ.ค.66) คาดตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,380-1,400 จุด โดยกลุ่มพลังงานต้น-กลางน้ำคาดว่าจะถ่วงตลาดตามราคาน้ำมันดิบที่ร่วงแรง 4% โดยล่าสุด Brent ปรับลงเหลือ US$74 ต่อบาร์เรล ขณะที่กลุ่ม Anti-Commodity อย่างพลังงานปลายน้ำ ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง คาดว่าจะปรับตัวได้แข็งแรงต่อเนื่อง ตลาดเริ่มให้น้ำหนักกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 67

ล่าสุดตัวเลขการจ้างงาน ADP เดือน พ.ย. ออกมา 1.03 แสนตำแหน่ง (ชะลอจาก 1.06 แสนตำแหน่งในเดือนก่อนและต่ำกว่าคาดที่ 1.3 แสนตำแหน่ง) ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างหุ้น เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตรเพื่อล็อก Yield ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯปรับลงแตะ 4.1% แต่ Dollar Index ยังคงทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ส่วนวันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ต้องติดตามคือดุลการค้าจีนและเงินเฟ้อไทยเดือน พ.ย. เช้านี้ ภาพระยะกลาง-ยาวเรามองว่าตลาดหุ้นไทยจะมีแนวโน้มที่แข็งแรงกว่าโลกหลังจาก Underperform อย่างมากในปีนี้

ขณะที่ปัจจัยหนุนแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะทยอยเร่งตัวในไตรมาส 4/66 เป็นต้นไป ขณะที่มูลค่าอยู่ในโซนค่อนข้างต่ำทั้งในแง่ PER ที่ 14.6 เท่าและ EY Gap ราว 4% จังยังระดับดัชนีต่ำกว่า 1,400 จุดมี Downside ที่จำกัดมากขึ้น และมองจังหวะปรับลงเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพื่อถือลงทุน

กลยุทธ์ : เลือกหุ้นที่โมเมนตัมกำไรไตรมาส 4/66 ถึงปี 67 แข็งแกร่งและ PER/PBV ต่ำเทียบกับ Pre-Covid // รอจังหวะสะสมเพิ่มจังหวะดัชนีปรับลงเข้าใกล้ 1,350 จุดหรือต่ำกว่า

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค.:  CPN, GPSC, SJWD, TIDLOR, TU